คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1532/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสามนั่งรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน มาจอดที่ปากซอยให้จำเลยที่ 3 เฝ้ารถ เมื่อจำเลยที่ 1,2 ไปลักรถจักรยานยนต์ในซอยได้แล้ว จำเลยทั้งสามหนีไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนและแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์กับจำเลยที่ 1,2 ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ หรือรับของโจรขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357, 83

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7)(8), 83 ให้จำคุกคนละ 4 ปี ข้อนำสืบของจำเลยให้ความรู้แก่ศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละหนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ข้อหาฐานรับของโจรให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 3 เป็นเพียงผู้สนับสนุน พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)(8), 86ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามมาตรา 78 คงจำคุกสองปีนอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ตามศาลชั้นต้น

จำเลยทั้งสามฎีกาว่าไม่ได้ทำผิด ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1, 2จำเลยที่ 1, 2 อุทธรณ์คำสั่ง ศาลฎีกามีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยที่ 3 โดยว่าเป็นการแก้ไขมาก

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มีพยานเบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้งสามนั่งรถจักรยานยนต์คันเดียวกันมา เมื่อจะทำการลักรถจักรยานยนต์ของนายหรน จำเลยจอดรถไว้ปากซอยให้จำเลยที่ 3 เฝ้า เมื่อลักรถได้แล้ว จำเลยทั้งสามหนีไปพร้อมกันแสดงให้เห็นว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมคบคิดกันมาก่อนและแบ่งหน้าที่กันทำจำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันทำการลักทรัพย์กับจำเลยที่ 1, 2

พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share