คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมของ ท.บิดาพ. จำเลยเป็นภริยาและเป็นผู้จัดการมรดกของ พ. เจ้ามรดก เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ ท.อันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของพ.ที่ตกได้แก่ บุตรผู้เยาว์ของจำเลย จึงเป็นนิติกรรมที่ต้องห้ามโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(8) และไม่มีผลบังคับถึงมรดกของ พ.ทั้งหมดที่ตกได้แก่ทายาทจึงไม่มีสิทธิของท. อันเกิดจากสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอันจะพึงตกได้แก่โจทก์ตามพินัยกรรมของ ท. ดังนั้น โจทก์ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของจำเลย และไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับพินัยกรรมของนายทองทิพย์ จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของร้อยตรีพิทักษ์ จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งปันทรัพย์มรดกของร้อยตรีพิทักษ์กับนายทองทิพย์นางบุญชื่นโจทก์และนายวิทูร โดยตามสัญญาข้อ 1 จำเลยยอมสละมรดกส่วนของตนในบ้านและที่ดินโฉนดเลขที่ 21670 ให้แก่นายทองทิพย์ และข้อ 6 ให้จำเลยจัดการไถ่ถอนจำนองบ้านและที่ดินดังกล่าวเพื่อโอนใส่ชื่อนายทองทิพย์โดยใช้เงินจากกองมรดกของร้อยตรีพิทักษ์ภายใน 1 ปี ต่อมานายทองทิพย์ถึงแก่กรรม และได้ทำพินัยกรรมยกบ้านและที่ดินพิพาทให้โจทก์และนางบุญชื่น จำเลยไม่ยอมจัดการไถ่ถอนจำนองตามกำหนดในสัญญา โจทก์ได้ฟ้องจำเลย ต่อมาจำเลยได้ขายที่ดินมรดกของร้อยตรีพิทักษ์รวม 3 แปลง ซึ่งจำเลยจะต้องใช้เพื่อการไถ่ถอนจำนองบ้านและที่ดินพิพาท โดยเจตนาให้พ้นไปเสียจากการที่โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลบังคับเอาจากทรัพย์สินดังกล่าว โดยจำเลยทราบดีว่าไม่มีทรัพย์มรดกของร้อยตรีพิทักษ์อย่างอื่นที่โจทก์จะบังคับชำระหนี้ได้อีก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นภริยาของร้อยตรีพิทักษ์เจ้ามรดกมีบุตรผู้เยาว์ด้วยกัน 3 คน นายทองทิพย์เป็นบิดาของร้อยตรีพิทักษ์ สัญญาประนีประนอมยอมความทำขึ้นเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกของร้อยตรีพิทักษ์และจำเลยเป็นคู่สัญญาแทนบุตรผู้เยาว์ทั้ง 3 คนในฐานะที่เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย โดยเฉพาะสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวข้อ 1 และข้อ 6 มีผลให้ทรัพย์มรดกของร้อยตรีพิทักษ์ คือบ้านพร้อมที่ดินโฉนดเลขที่ 21670 ตกเป็นของนายทองทิพย์แต่เพียงผู้เดียว เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวกับทรัพย์สินอันเป็นมรดกของร้อยตรีพิทักษ์ที่ตกได้แก่บุตรผู้เยาว์ของจำเลย สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นนิติกรรมที่ต้องห้ามโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(8) และไม่มีผลบังคับถึงทรัพย์สินอันเป็นมรดกของร้อยตรีพิทักษ์ทั้งหมดที่ตกได้แก่ทายาท นายทองทิพย์จึงไม่ได้รับหรือไม่อาจแสวงสิทธิจากทรัพย์สินอันจะตกได้แก่ตนตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีสิทธิของนายทองทิพย์อันเกิดจากสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นอันจะพึงตกได้แก่โจทก์ตามพินัยกรรมของนายทองทิพย์โจทก์ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 และไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวได้

พิพากษายืน

Share