คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยประมาทชนเสาไฟฟ้าของโจทก์เสียหายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2518 ซึ่งจำเลยที่ 2และ 3 จะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในผลแห่งละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีข้อตกลงให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นผู้ดูแลรักษารับผิดชอบซ่อมแซมและเป็นผู้แจ้งความตีราคาค่าเสียหาย ติดตามเรื่องในกรณีที่เสาไฟฟ้าถูกรถชน แต่มิได้มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือตกลงเรื่องค่าเสียหายได้เองแต่อย่างใดไม่ จะถือว่าการไฟฟ้านครหลวงเป็นตัวแทนของโจทก์ในการเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผู้แทนโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 11ธันวาคม 2518 และโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม2519 ภายใน 1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2518 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างชนเสาไฟฟ้าของโจทก์เสียหายจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าว ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ (8,980.97 บาท)

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธและว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง

จำเลยที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายว่า การไฟฟ้านครหลวงเป็นตัวแทนของโจทก์ซึ่งรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนเกิน1 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามของโจทก์คือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ซึ่งทราบการกระทำละเมิดยังไม่เกิน1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกาปัญหากฎหมายข้อนี้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เทศบาลกรุงเทพฯ เคยตกลงกับการไฟฟ้านครหลวงโดยให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นผู้ดูแลรักษารับผิดชอบซ่อมแซมและเป็นผู้แจ้งความตีราคาค่าเสียหาย ติดตามเรื่องในกรณีที่เสาไฟฟ้าถูกรถชน ถ้าต้องซ่อมเสาไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหายในวงเงินค่าใช้จ่ายไม่เกิน 8,000 บาท ก็ให้ซ่อมไปได้แล้วส่งใบเสร็จรับเงินมาเบิกจากเทศบาลนครกรุงเทพ ถ้าค่าใช้จ่ายเกินกว่า8,000 บาท ให้แจ้งให้เทศบาลนครกรุงเทพพิจารณาก่อน ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อตกลงดังกล่าว เทศบาลนครกรุงเทพซึ่งโจทก์รับมอบกิจการและทรัพย์สินมาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหาได้มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือตกลงเรื่องค่าเสียหายได้เองแต่ประการใดไม่ การไฟฟ้านครหลวงจึงไม่ใช่ตัวแทนของโจทก์ดังจำเลยฎีกา เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผู้แทนโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 11 ธันวาคม 2518 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 ภายในกำหนด 1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share