แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ พ. โอนที่ดินซึ่งเป็นมรดกของ พ. ให้โจทก์ตามพินัยกรรมที่ พ. ทำไว้ ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของบิดาโจทก์จำเลยซึ่งเป็นทรัพย์นอกพินัยกรรมให้แก่โจทก์มิได้ เพราะเป็นการนอกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางพ่วน สุขดำ ทำพินัยกรรมยกที่ดิน ๑ แปลงพร้อมเรือน ๑ หลังตาม น.ส.๓ ก.เลขที่ ๗๖๒ และยกที่ดินสวนยางพาราให้แก่โจทก์จำเลยและนางปรีดา โดยโจทก์ได้ที่ดินเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ และให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อนางพ่วนถึงแก่กรรมจำเลยมิได้จัดการมรดกแต่อย่างใดและไม่ยอมแบ่งมรดกให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องรบกวนที่ดินเฉพาะส่วนที่ตกได้แก่โจทก์ ให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกโอนที่ดินเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่แก่โจทก์ หากไม่ทำให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่านางพ่วนไม่เคยทำพินัยกรรม โจทก์ทำพินัยกรรมปลอมขึ้นเพื่อเบียดบังเอาทรัพย์มรดกของนายนุ่นบิดาโจทก์จำเลยซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วโจทก์จึงถูกกำจัดมิให้รับมรดกของนายนุ่น ที่ดินตามฟ้องจำเลยได้ครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมา โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกจดทะเบียนโอนและแบ่งแยกที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๗๖๒ เฉพาะส่วนที่เป็นของนางพ่วนให้โจทก์และจดทะเบียนโอนและแบ่งแยกที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๗๖๓ เนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ให้โจทก์ ห้ามจำเลยกับบริวารเข้ายุ่งเกี่ยวรบกวนสิทธิครอบครองที่ดินส่วนที่ตกได้แก่โจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกจดทะเบียนโอนที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๗๖๒ เนื้อที่ ๓ ใน ๔ ส่วนแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่า พินัยกรรมของนางพ่วนใช้บังคับโจทก์จำเลยสำหรับที่ดิน น.ส.๓ ก.เลขที่ ๗๖๒ ได้หรือไม่
. ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทแปลงนี้นางพ่วนและนายนุ่นมีสิทธิครอบครองร่วมกันมา ยังมิได้แบ่งให้ผู้ใด นางพ่วนจึงมีสิทธิทำพินัยกรรมยกเฉพาะส่วนของตนให้โจทก์เท่านั้น โจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินส่วนของนางพ่วนตาม น.ส. ๓ ก.เลขที่ ๗๖๒ เพียงครึ่งหนึ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานผู้จัดการมรดกนางพ่วนให้โอนมรดกของนางพ่วนให้โจทก์ตามพินัยกรรม การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของบิดาโจทก์จำเลยซึ่งเป็นทรัพย์นอกพินัยกรรมให้แก่โจทก์ด้วย จึงเป็นการนอกฟ้อง ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น