แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่+คดีมีมูลนั้น ถือว่าเป็นเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วจำเลยฎีกาไม่ได้ ฎีกาอุทธรณ์ อำนาจศาลฎีกา
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๒๕-๒๒๘
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าคดีโจทก์ยังไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล จึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแลหมายเรียกจำเลยมาแก้คดี
จำเลยฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยอ้างมาตรา ๑๗๐ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
จำเลยร้องคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยจัดการต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ศาลฎีกาได้สั่งให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาจำเลยแล้วก็ดี แต่ศาลฎีกาย่อมมีหน้าที่จะต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้เป็นการเด็ดขาดอีกชั้นหนึ่ง เพราะในเวลานั้นโจทก์จำเลยไม่มีโอกาศจะโต้เถียงกัน เห็นว่าคดีนี้เป็นชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ว่าคดีโจทก์มีมูลย่อมถึงที่สุดตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๗๐ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์