แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำบอกกล่าวของผู้ตายซึ่งถูกทำร้ายกล่าวถึงตัวคนร้ายที่ยิงตนขณะที่รู้ตัวว่าจะต้องตายนั้น รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226
ผู้ตายถูกยิงล้มเจ็บอยู่กับที่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจมาถึง ผู้ตายได้เล่าถึงพฤติการณ์ที่ถูกยิงโดยตลอด ระบุชื่อผู้ยิงและเมื่อภริยาผู้ตายมาถึงผู้ตายก็ได้เล่าให้ภริยาฟังอย่างเดียวกันและได้กล่าวด้วยว่า “อยู่ไม่ได้แล้ว ร้อนจริง เลี้ยงลูกให้ดี” ประกอบกับพฤติเหตุแวดล้อมในเรื่องสาเหตุเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอแก่การรับฟังลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงที่นำมาซึ่งข้อกฎหมายในคดีนี้มีว่าเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๑๑ เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ นาฬิกา นายบก ยอดหว่าง ผู้ตายได้ดื่มสุรากับจำเลยซึ่งมีปืนลูกซองมาด้วย ๑ กระบอก เสร็จแล้วเวลาราว ๑๘.๐๐ นาฬิกา ทั้งสองพากันเดินทางกลับบ้านขณะเดินทางได้เกิดทะเลาะกันเรื่องผู้ตายยืมเลื่อยจำเลยมาแล้วทำหัก จำเลยจึงยิงผู้ตาย ๑ นัด ผู้ตายยังไม่ตายทันที ยังพูดได้อยู่แต่อาการหนักมากและรู้ตัวว่าจะต้องตาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงผู้ตายก็ได้เล่าถึงพฤติการณ์ที่ถูกยิงให้ตำรวจฟัง และเมื่อภริยาผู้ตายมาถึง ผู้ตายได้เล่าให้ภริยาฟังเช่นเดียวกันและได้สั่งเสียภริยาให้เลี้ยงลูกให้ดี โดยรู้ตัวว่าจะไม่รอดแล้วเหตุเกิดที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย อัยการจังหวัดสุโขทัยโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยปฏิเสธ
ศาลจังหวัดสุโขทัยฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงดังโจทก์ฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกลดเหลือ ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นขณะผู้ตายถูกยิงแต่ก็ปรากฏว่าก่อนเกิดเหตุเล็กน้อยจำเลยไปกับผู้ตายเพียงสองคนเท่านั้นเมื่อจ่าสิบตำรวจจำเนียร แดงเรือ ไปพบผู้ตายถูกยิงซึ่งขณะนั้นยังไม่ตายผู้ตายก็บอกว่านายธรรมจำเลยเป็นคนยิง แม้จะได้ความว่ามีคนชื่อธรรมอยู่หลายคน แต่ได้เล่าด้วยว่าดื่มสุรากับนายธรรมที่ร้านนายสวัสดิ์ มากลางทางเถียงกันเรื่องเลื่อยแล้วนายธรรมยิง นายธรรมที่ผู้ตายกล่าวถึงจึงหมายถึงจำเลยเมื่อนางหงษ์ ยอดหว่าง ภริยาผู้ตายมา ผู้ตายก็บอกว่านายธรรมยิงอยู่ไม่ได้แล้วร้อนจริงเลี้ยงลูกให้ดี คำบอกกล่าวของผู้ตายถึงคนร้ายเมื่อรู้ตัวว่าจะต้องตาย ฟังเป็นหลักฐานได้
ส่วนในเรื่องสาเหตุนั้น ได้ความว่าก่อนเกิดเหตุจำเลยไปเลื่อยไม้กับผู้ตายเลื่อยของจำเลยถูกต้นไม้ทับหักจำเลยให้ผู้ตายใช้แต่ผู้ตายยังไม่ได้ ใช้ให้
พิพากษายืน