คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ให้นัดสืบพยานโจทก์เมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยมาศาลแต่มิได้แจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การ กลับแถลงยอมรับข้อเท็จจริงบางประการต่อศาลจนศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษา เช่นนี้ จำเลยจะมายื่นคำร้องในวันนัดฟังคำพิพากษาว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การขออนุญาต ยื่นคำให้การอีกหาได้ไม่ เพราะจำเลยไม่ได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคแรก ซึ่งกำหนดให้จำเลยแจ้งถึงเหตุที่มิได้ยื่นคำให้การ ให้ศาลทราบก่อนหรือในวันสืบพยานขณะเมื่อเริ่มต้นสืบพยาน
โจทก์กับบุคคลอื่นอีก 6 คนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินมีน.ส.3 แปลงพิพาท จ.เจ้าของรวมคนหนึ่งไปขอออกโฉนดใส่ชื่อ จ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวแล้วโอนขายให้จำเลย โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้ไปทำนิติกรรมแก้ไขเปลี่ยนแปลงผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดโดยให้ใส่ชื่อโจทก์และเจ้าของรวมคนอื่นเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วย ดังนี้ ศาลจะพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนใส่ชื่อเจ้าของรวมคนอื่นมิได้เป็นโจทก์ฟ้องคดีด้วยไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้แทนหรือได้รับมอบอำนาจจากบุคคลเหล่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ นางสาวสุภาพ เด็กชายสุพจน์ เด็กชายสุรพลเด็กหญิงสุเพียร นายจันทร์ และ นางน้อง เป็นเจ้าของรวมกันในที่ดินแปลงตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 207 ต่อมานายจันทร์ เจ้าของรวมคนหนึ่งไปขอออกโฉนดที่ดินดังกล่าว และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลำปางได้ออกโฉนดเลขที่ 2124 ให้นายจันทร์ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว ต่อมานายจันทร์ ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยโดยโจทก์และเจ้าของรวมคนอื่นไม่ทราบ จึงขอให้จำเลยไปทำนิติกรรมใส่ชื่อโจทก์นางสาวสุภาพ เด็กชายสุพจน์ เด็กชายสุรพล เด็กหญิงสุเพียร และนางน้อง ถือกรรมสิทธิ์รวม 6 คนในโฉนดที่ 2124

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยมาศาลโจทก์จำเลยรับกันว่าจำเลยเป็นบุตรเขยนายจันทร์ นายจันทร์ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ นางสาวสุภาพ เด็กชายสุพจน์ เด็กชายสุรพล เด็กหญิงสุเพียร และนางน้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษา

ในวันนัดฟังคำพิพากษาจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ขอให้ไต่สวนและอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ

ศาลชั้นต้นมี(มีคำสั่ง)ให้ยกคำร้อง แล้วพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ นางสาวสุภาพ เด็กชายสุพจน์ เด็กชายสุรพล เด็กหญิงสุเพียร และนางน้องในโฉนดเลขที่ 2124 ร่วมกับจำเลย

จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ไต่สวนคำร้องของจำเลยและมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่คำให้การแล้วมิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2520 จำเลยได้รับหมายนัดเมื่อวันที่ 15 เดือนเดียวกัน ซึ่งกำหนดให้จำเลยไปศาลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2520 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และจำเลยไปศาล จำเลยมิได้แจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การเสียในขณะนั้น กลับแถลงยอมรับข้อเท็จจริงบางประการต่อศาลจนศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษา ในวันนัดฟังคำพิพากษาจำเลยยื่นคำร้องว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ การที่จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การในวันนัดฟังคำพิพากษาเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคแรก ที่กำหนดให้จำเลยแจ้งให้ศาลทราบก่อนหรือในวันสืบพยานขณะเมื่อเริ่มต้นสืบพยาน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีจึงไม่ชอบ

แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนใส่ชื่อนางสาวสุภาพ เด็กชายสุพจน์ เด็กชายสุรพล เด็กหญิงสุเพียร และนางน้องในโฉนดเลขที่ดินตามฟ้องร่วมกับจำเลยด้วยนั้นเป็นการไม่ถูกต้อง เพราะบุคคลเหล่านั้นมิได้เป็นโจทก์ฟ้องและไม่ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้แทนหรือได้รับมอบอำนาจจากบุคคลเหล่านั้น

พิพากษากลับ ให้จำเลยไปจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดเลขที่ 2124 ร่วมกับจำเลย หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย

Share