แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าเนื้อที่ซื้อไปจาก ป.ให้แก่ ส. ป.และ ส.เป็นสามีภริยากัน ดำเนินกิจการค้าเนื้อ ย่อมเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน แม้ ส.จะนำเช็คไปเข้าบัญชี ป. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ย่อมเกิดความเสียหายแก่ทั้ง ป. และ ส. ดังนั้น ส.จึงเป็นผู้เสียหายด้วย มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้
จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่าย วันสั่งจ่ายในเช็คที่ใช้ตรายางประทับเกิดขึ้นภายหลังโดยจำเลยมิได้รู้เห็นด้วย การที่จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายเช่นนี้ ถือได้ว่าไม่มีวันที่จำเลยผู้ออกเช็คกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด(อ้างฎีกาที่ 89 – 90/2513)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คให้แก่นางสกินา ผู้เสียหายรวม ๒ ฉบับ เพื่อ ชำระหนี้ค่าซื้อเนื้อโคกระบือ เมื่อเช็คถึงกำหนด ผู้เสียหายนำไปเข้าบัญชี ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ทั้งนี้ โดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๖ เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาว่านางสกินาเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่าจำเลยออกเช็ครายพิพาทชำระหนี้ค่าเนื้อที่ซื้อไปจากนายประชาให้แก่นางสกินา นายประชาและ นางสกินาเป็นสามีภริยากัน ดำเนินกิจการค้าเนื้อ ย่อมเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน แม้นางสกินา.จะนำเช็คไปเข้าบัญชีของ นายประชา เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ย่อมเกิดความเสียหายแก่ทั้งนายประชา และนางสกินา ดังนั้น นางสกินาจึงเป็นผู้เสียหายด้วย มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้โจทก์มีอำนาจฟ้อง
ปัญหาต่อไปว่า จำเลยกระทำผิดหรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าจำเลยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็ครายพิพาท วันสั่งจ่ายในเช็คที่ใช้ตรายางประทับเกิดขึ้นภายหลังโดยจำเลยมิได้รู้เห็นด้วย การที่จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายเช่นนี้ ถือได้ว่าไม่มีวันที่จำเลยผู้ออกเช็คกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดดังโจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน