แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องหาว่าเขาขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควร เป็นวิสัยของปกติชนเป็นเหตุให้ชนรถผู้อื่นเสียหายและเกิดบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2477 และ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 259 ดังนี้ เมื่อฟ้องมิได้บรรยายว่าจำเลยมีความประมาทอย่างไรอันเป็นลักษณะของคดีที่จะทำให้จำเลยรู้ข้อหาในความประ มาทของตนได้ จัดว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)
(อ้างฎีกาที่ 241/2493)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้ฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับกล่าวคือ จำเลยได้ขับรถยนต์รับจ้างโดยสารไปตามถนนหลวงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควร เป็นวิสัยของปกติชนเป็นเหตุให้ชนรถจักรยาน ๓ ล้อพ่วงข้างซึ่ง ด.ช.ฮั่งเตี๋ยงขับขี่สวนทางมาได้รับความเสียหาย และเป็นเหตุให้ ด.ช.ฮั่งเตี๋ยงบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าฟ้องขาดรายละเอียดแห่งลักษณะประมาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยมีความประมาทอย่างไร อันเป็นลักษณะสำคัญของคดีที่จะทำให้จำเลยรู้ข้อหาในความประมาทของตนได้ จัดว่าเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘(๕) และศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ฎีกาที่ ๒๕๑/๒๔๙๓ แล้ว
พิพากษายืน