คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้อมีข้อความว่า’เจ้าของและผู้เช่าตกลงกันว่า หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีในทางแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทใด ๆ ตามสัญญานี้ ให้ฟ้องร้องและดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาลแพ่งในจังหวัดพระนครเท่านั้น’เจ้าของคือจำเลยที่ 1 ส่วนผู้เช่าคือโจทก์ สัญญาเช่าซื้อรายนี้จึงมีผลผูกพันเฉพาะโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น เมื่อโจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 2 ก็ย่อมยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ต่อศาลที่จำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาคือศาลจังหวัดนครสวรรค์และกรณีที่มีจำเลยหลายคนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลของศาลสองศาลหรือกว่านั้นขึ้นไป และมูลความแห่งคดีไม่อาจแบ่งแยกจากกันได้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 5 ยอมให้โจทก์เสนอคำฟ้องจำเลยต่อศาลหนึ่งศาลใดก็ได้ เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์จำเลยที่ 1 ก็มิได้ให้การโต้แย้งว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องที่ศาลนั้น พึ่งจะมาโต้แย้งในชั้นฎีกา ดังนี้ โจทก์มีสิทธิยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งสองโอนทะเบียนรถคันหมายเลขทะเบียน น.ว. 03778 ตามสัญญาเช่าซื้อให้โจทก์ ฯลฯ

จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์ผิดสัญญา และฟ้องแย้งขอให้โจทก์คืนรถ ฯลฯ

จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์ผิดนัดไม่ส่งเงินค่างวดและโจทก์ฟ้องผิดศาล เพราะตามสัญญาเช่าซื้อ หากมีการฟ้องร้องกันให้ฟ้องที่ศาลแพ่งเท่านั้น ฯลฯ

วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามสัญญาเช่าซื้อให้ฟ้องร้องที่ศาลแพ่งเท่านั้นให้จำหน่ายคดีโจทก์และจำเลยที่ 1 เสีย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีนี้มีจำเลยสองคน แม้จำเลยที่ 1 กับโจทก์จะได้มีสัญญาผูกพันกันเช่นนั้นก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ เพราะจำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาเช่าซื้อรายนี้ ข้อ 11 มีข้อความว่า “เจ้าของและผู้เช่าตกลงกันว่าหากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีในทางแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทใด ๆ ตามสัญญานี้ให้ฟ้องร้องและดำเนินกระบวนพิจารณาที่ศาลแพ่งในจังหวัดพระนครเท่านั้น” เจ้าของคือจำเลยที่ 1 ส่วนผู้เช่าคือโจทก์ สัญญาเช่าซื้อรายนี้จึงมีผลผูกพันเฉพาะโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น เมื่อโจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 2โจทก์ย่อมจะยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ต่อศาลที่จำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนา คือศาลจังหวัดนครสวรรค์ และกรณีที่มีจำเลยหลายคนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลของศาลสองศาลหรือกว่านั้นขึ้นไปและมูลความแห่งคดีไม่อาจแบ่งแยกจากกันได้ มาตรา 5 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งยอมให้โจทก์เสนอคำฟ้องจำเลยต่อศาลใดศาลหนึ่งก็ได้ เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ จำเลยที่ 1 ก็มิได้ให้การโต้แย้งว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องที่ศาลนั้น จำเลยที่ 1 พึ่งจะมาโต้แย้งในชั้นฎีกานี้เองศาลฎีกาจึงเห็นว่าโจทก์มีสิทธิยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้

พิพากษายืน

Share