คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนร้าย 3 คนร่วมกันลักรถยนต์จิ๊ป โดยคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ กำลังต่อสายไฟให้เครืองยนต์ติด อีกสองคนช่วยกันเข็นรถเพื่อให้เครื่องยนต์ติด รถเคลื่อนไป 3 เมตร แต่เครื่องยนต์ไม่ติด และเจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำผิดเสียก่อน ดังนี้ ถือได้ว่าคนร้ายนำรถยนต์เคลื่อนที่ไปแล้ว พ้นชั้นพยายาม เป็นความผิดสำเร็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวม ๓ คนร่วมกันลักรถยนต์จิ๊ป ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑) (๗), ๘๓ จำคุก ๔ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า จำเลยยังมิได้กระทำความผิดสำเร็จ จำเลยเพียงพยายามกระทำความผิด
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยกับพวกรวม ๓ คนด้วยกันกระทำการลักทรัพย์ร่วมกัน โดยคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ กำลังต่อสายไฟให้เครื่องยนต์ติดอยู่ อีกสองคนช่วยกันเข็นรถเคลื่อนที่ไป ๓ เมตรแล้ว เพื่อให้เครื่องยนต์ติดจะได้ขับรถไปสะดวก แต่เครื่องยนต์ไฟไม่ติด ตำรวจเห็นเหตุการณ์ เชิญไปสถานีตำรวจ จำเลยวิ่งหนีแต่ถูกจับในวันเดียวกันนั้น เห็นว่า ถือได้ว่าจำเลยกับพวกนำเอารถเคลื่อนทีไปแล้ว จำเลยกระทำการลักทรัพย์ตลอดและบรรลุผล ความผิดของจำเลยจึงพ้นขั้นพยายาม เป็นความผิดสำเร็จ
พิพากษายืน.

Share