คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามกำหนด โดยอ้างว่าตัวจำเลยป่วยถึงสองนัดติดต่อกัน ถึงแม้จะมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลแต่ความเห็นของแพทย์ก็มิได้ระบุว่าอาการป่วยของจำเลยรุนแรงจนถึงขนาดไม่สามารถมาศาลได้ และเมื่อศาลให้ทนายจำเลยนำแพทย์ที่ออกใบรับรองมาศาลเพื่อไต่สวน ทนายจำเลยก็ไม่สามารถนำแพทย์มาให้ศาลไต่สวนได้ โดยอ้างลอย ๆ ว่าติดราชการพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าจำเลยประวิงคดี และถือได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน แต่เมื่อศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกันและออกหมายจับจำเลย ผู้ประกันก็ได้พยายามติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลภายในเวลาเพียง 2 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งปรับผู้ประกัน และในวันที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันผู้ประกันก็มาศาล แสดงให้เห็นว่าผู้ประกันเอาใจใส่ในหน้าที่ ทั้งช่วยติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลโดยไม่ชักช้า เป็นการให้ความสะดวกรวดเร็วแก่ศาล มีเหตุที่ศาลจะลดค่าปรับให้ตามสมควร.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นศาลอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว
ต่อมาวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยไม่มาศาล ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าจำเลยป่วย แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่านัดก่อนจำเลยก็ไม่มาศาลโดยอ้างว่าป่วย ทั้งใบรับรองแพทย์ที่เสนอต่อศาล แพทย์มีความเห็นเพียงว่าจำเลยป่วยเป็นโรคกระเพาะลำไส้อักเสบ สมควรให้พักรักษา 3 วัน ไม่ปรากฏว่าอาการป่วยของจำเลยรุนแรงจนถึงขนาดที่จะมาศาลไม่ได้ จึงให้ไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยในวันนั้นเองเวลา 14.00 นาฬิกา และให้ทนายจำเลยนำแพทย์ที่ออกใบรับรองมาไต่สวนด้วยพอถึงกำหนดเวลาดังกล่าวทนายจำเลยไม่สามารถนำแพทย์มาให้ศาลไต่สวนได้ โดยอ้างว่าเป็นแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจติดราชการ แต่ไม่ทราบว่าติดราชการอะไร
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพฤติการณ์เป็นการประวิงคดี ถือว่า ผู้ประกันผิดสัญญาประกัน มีคำสั่งให้ปรับผู้ประกันหนึ่งแสนบาทเต็มตามสัญญาประกัน และออกหมายจับจำเลย สองวันต่อมาผู้ประกันนำจำเลยส่งต่อศาลและขอให้งดปรับหรือปรับจำนวนเล็กน้อย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลดค่าปรับโดยให้ปรับผู้ประกันเพียงหนึ่งหมื่นบาท
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่ผู้ประกันฎีกาขอให้ลดค่าปรับลงเหลือเพียงปรับ 2,000 บาทนั้น เห็นว่า การที่ผู้ประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งต่อศาลตามกำหนดโดยอ้างว่าตัวจำเลยป่วยถึงสองนัดติดต่อกันถึงแม้ว่าจะมีใบรับรองของแพทย์มาแสดงต่อศาลแต่ความเห็นของแพทย์ก็มิได้ระบุว่าอาการป่วยของจำเลยรุนแรงจนถึงขนาดไม่สามารถมาศาลได้และเมื่อศาลให้ทนายจำเลยนำแพทย์ที่ออกใบรับรองมาศาลเพื่อไต่สวนทนายจำเลยก็ไม่สามารถนำแพทย์มาให้ศาลไต่สวนได้โดยอ้างลอย ๆ ว่าติดราชการ พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าจำเลยประวิงคดีและถือได้ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน แต่เมื่อศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกัน และออกหมายจับจำเลย ผู้ประกันก็ได้พยายามติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลในวันที่ 15 มกราคม 2529 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 2 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งปรับผู้ประกัน และในวันที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันผู้ประกันก็มาศาล แสดงให้เห็นว่าผู้ประกันเอาใจใส่ในหน้าที่ ทั้งช่วยติดตามนำตัวจำเลยมามอบต่อศาลโดยไม่ชักช้า ซึ่งเป็นการให้ความสะดวกรวดเร็วแก่ศาล ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งลดค่าปรับโดยให้เหลือค่าปรับ 10,000 บาท นับว่ายังสูงไปเล็กน้อย แต่ตามพฤติการณ์ก็ไม่สมควรลดลงตามที่ผู้ประกันฎีกาได้ ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ลดค่าปรับลง คงเหลือค่าปรับ 5,000 บาทฎีกาของผู้ประกันฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับผู้ประกันเป็นเงิน 5,000 บาท”.

Share