คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องทำหนังสือมอบอำนาจให้ ป. และ ธ. กระทำการแทนผู้ร้อง โดยให้มีอำนาจยื่นคำร้องขอรับรถของกลางในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1769/2542 ของศาลจังหวัดนราธิวาสคืน อันเป็นการแสดงว่าผู้ร้องได้แต่งตั้งให้ ป. และ ธ. เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้องได้ ซึ่งหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องไม่ได้จำกัดว่าผู้รับมอบอำนาจแต่ละคนจะต้องกระทำการร่วมกันตามที่ได้รับมอบอำนาจ ดังนั้น ผู้รับมอบอำนาจคนใดคนหนึ่งจึงสามารถยื่นคำร้องขอคืนของกลางได้
ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้เช่าซื้อรถยนต์ เมื่อผู้เช่าซื้อได้รับรถยนต์กระบะที่เช่าซื้อจากผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของผู้เช่าซื้อ ทั้งโจทก์มิได้นำพยานเข้าสืบให้เห็นแตกต่างเป็นอย่างอื่น จึงฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด จึงต้องคืนรถยนต์กระบะของกลางให้แก่ผู้ร้อง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และขอให้ริบรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน บจ – 2890 ปัตตานี ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์กระบะของกลางคันหมายเลขทะเบียน บจ – 2890 ปัตตานี ที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งริบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ขอให้ศาลมีคำสั่งคืนรถยนต์กระบะของกลางให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์กระบะของกลางและมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้คืนรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บจ – 2890 ปัตตานี ของกลาง ให้แก่บริษัทนครหลวงเจริญเช่าซื้อหาดใหญ่ จำกัด ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าผู้รับมอบอำนาจจากผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางหรือไม่ เห็นว่า หนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องระบุว่า ผู้ร้องได้มอบอำนาจให้นายปราโมทย์ นายธนะวัฒน์ เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้มอบอำนาจโดยให้มีอำนาจยื่นคำร้องขอรับรถของกลางคันหมายเลขทะเบียน บจ – 2890 ปัตตานี คืนในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1769/2542 ของศาลจังหวัดนราธิวาส อันเป็นการแสดงว่าผู้ร้องได้แต่งตั้งให้นายปราโมทย์และนายธนะวัฒน์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้องได้ เมื่อหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องดังกล่าวไม่ได้จำกัดว่าผู้รับมอบอำนาจแต่ละคนจะต้องกระทำการร่วมกันในการดำเนินการตามที่ได้รับมอบอำนาจ ดังนั้นการดำเนินการยื่นคำร้องขอคืนของกลางโดยผู้รับมอบอำนาจคนใดคนหนึ่งจึงสามารถกระทำได้ การที่นายปราโมทย์ได้ลงชื่อในคำร้องขอคืนของกลางแต่เพียงผู้เดียวจึงไม่ต้องห้ามแต่ประการใด ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางได้ ฎีกาของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการต่อไปมีว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดหรือไม่ ในปัญหานี้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ยังมิได้วินิจฉัย แต่เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีเป็นไปโดยรวดเร็ว ศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวไปเสียทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยก่อน ในปัญหาข้อนี้นายธนะวัฒน์ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ร้องเบิกความว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์กระบะของกลางโดยได้ให้นายรอฮิงเป็นผู้เช่าซื้อไป ในการที่จำเลยทั้งสองนำรถยนต์ดังกล่าวไปใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดนั้น ผู้ร้องไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย เห็นว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้เช่าซื้อรถยนต์ เมื่อผู้เช่าซื้อได้รับรถยนต์กระบะที่เช่าซื้อไปจากผู้ร้องแล้วก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของผู้เช่าซื้อ ทั้งโจทก์มิได้นำพยานเข้าสืบให้เห็นแตกต่างเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด จึงต้องคืนรถยนต์กระบะของกลางให้แก่ผู้ร้อง
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้น.

Share