คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ซื้อที่ดินมาจากบิดาโดยระบุเลขที่ของใบไต่สวนที่ดิน ท้องที่ที่ที่ดินตั้งอยู่ และว่าจำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไป ขอให้ขับไล่ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมไม่จำต้องบรรยายว่าที่ดินของโจทก์จดอะไรกว้างยาวเท่าใดและไม่จำต้องแนบใบไต่สวนที่ดินมาพร้อมกับฟ้องด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ซื้อที่ดินตามใบไต่สวนเลขที่ 3 ระวางที่3 ต.16 อ. หน้าสำรวจที่ 29 ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ จากนายบุญ เจริญสุข บิดาโจทก์ โจทก์ยินยอมให้จำเลยอาศัยอยู่โดยไม่มีกำหนด ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไป ได้บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่ดินของโจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ให้รื้อถอนบ้านและขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์

จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่มีสำเนาใบไต่สวนแนบมากับฟ้อง ไม่บรรยายว่าที่ดินโจทก์จดอะไรบ้าง การซื้อขายก็ไม่ปรากฏว่าได้จดทะเบียนหรือเปล่า จำเลยไม่เข้าใจข้อหา ไม่สามารถต่อสู้คดี ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินที่โจทก์ฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมจำเลยครอบครองที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ คดีฟังไม่ได้แน่ชัดว่าจำเลยได้แสดงพฤติการณ์เปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองเมื่อใด นับถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปีหรือไม่โจทก์ยังมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์มิข้อความชัดอยู่แล้วว่าโจทก์ซื้อที่ดินแปลงนี้จากนายบุญบิดา ทั้งได้ระบุเลขที่ของใบไต่สวนที่ดินท้องที่ที่ที่ดินตั้งอยู่มาด้วย แล้วให้นางถนอมอาศัยปลูกเรือนอยู่ต่อมานายแสงสามีนางถนอมขายเรือนให้จำเลย โจทก์ก็คงให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไปในที่ดินของโจทก์ ที่โจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยก็เพราะไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป นับว่าฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 2 แล้ว จำเลยเองก็เข้าใจฟ้องได้ดีว่า ที่ดินที่โจทก์อ้างเป็นที่ดินตรงไหน โดยจำเลยต่อสู้ว่าเดิมเป็นที่ดินของนางวอนย่าของโจทก์จำเลย เป็นมรดกตกทอดมายังโจทก์และบุตรคนอื่น ๆ อีกหลายคน ส่วนที่จำเลยได้รับจำเลยได้ครอบครองเพื่อตนตลอดมา เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลไปทำแผนที่กลาง โจทก์จำเลยก็นำชี้ที่พิพาทคือ ที่ดินภายในเส้นสีแดง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์ไม่จำเป็นต้องแนบใบไต่สวนที่ดินมาพร้อมฟ้อง เพราะเป็นหลักฐานที่โจทก์สามารถนำมาแสดงในชั้นพิจารณาสืบพยานโจทก์ได้ไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายบังคับว่าจะต้องแนบเอกสารหลักฐานประกอบมาพร้อมกับฟ้อง

ที่จำเลยคัดค้านการออก ส.ค.1 ของโจทก์ ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยได้ไปคัดค้านไว้ตั้งแต่เมื่อใด อันจะถือได้ว่าจำเลยเริ่มเปลี่ยนการครอบครองแทนโจทก์มาเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง นับแต่วันคัดค้านจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเกิน 1 ปีหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัด ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์หมดสิทธิฟ้องเอาการครอบครองคืน ภายในกำหนด1 ปี โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

พิพากษายืน

Share