คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของโจทก์ตามหน้าโฉนด ศาลพิพากษายกฟ้องมิได้ชี้ขาดว่าเป็นที่ของผู้ใดดังนี้ โจทก์นำคดีมาฟ้องขับไล่ใหม่โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของทางครอบครองได้

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมฟ้องโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามโฉนดที่ ๗๘๘๒ แต่ปรากฏว่าที่พิพาทอยู่นอกเขตต์โฉนดที่โจทก์อ้าง ศาลชั้นต้นจึงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ของให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทนั้นอีก โดยอ้างว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์โดยทางปกครอง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีก่อนกับคดีนี้คู่ความคู่เดียวกัน มูลความอันเป็นเหตุที่ฟ้องก็เป็นเรื่องขอให้ขับไล่ออกจากที่ดินแห่งเดียวกันซึ่งศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไปแล้ว เป็นการต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๔๘ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อวินิจฉัยในประเด็นพิพาทเป็นคนละเหตุกับคดีก่อนและคำพิพากษาคดีก่อนไม่ได้ชี้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ใดจึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีของโจทก์ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ คดีที่เป็นการฟ้องซ้ำตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๔๘ นั้นจะต้องเป็นเรื่องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ทั้งในคดีก่อนศาลมิได้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของผู้ใด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share