คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อห้องแถวซึ่งเป็นวัตถุแห่งการเช่าถูกไฟไหม้หมดสิ้นสัญญาเช่าย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567
ทรัพย์สินที่เช่าได้สูญหายไปหมดสิ้นเพราะถูกไฟไหม้โดยมิใช่ความผิดของโจทก์ผู้เช่า และโจทก์ยังใช้ทรัพย์สินที่เช่าไม่ครบถ้วนตามอายุการเช่า เมื่อสัญญาเช่ามิได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ว่า ผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าบางส่วนคืนจากผู้ให้เช่าในกรณีที่ทรัพย์สินที่ให้เช่าได้สูญหายไปเพราะเหตุใด ๆ แล้วโจทก์ก็มีสิทธิเรียกค่าเช่าห้องแถวที่ได้ชำระให้แก่จำเลยผู้ให้เช่าไปแล้วนั้น คืนตามส่วนถัวของระยะเวลาที่โจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่าได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2517)
เงินค่าใช้จ่ายในการทวงถามของทนายความซึ่งโจทก์ได้จ่ายไปแล้วนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นผลโดยตรงอันเกิดจากการกระทำของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินจำนวนนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เช่าห้องแถวของจำเลย 1 ปี ตกลงค่าเช่ากัน 7,000 บาท ได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าให้จำเลยรับไปแล้ว 7,000 บาทในวันทำสัญญา ต่อมาไฟไหม้ห้องแถวเสียหายหมด โดยมิใช่ความผิดของโจทก์ สัญญาเช่าระงับลง จำเลยจึงต้องคืนค่าเช่าที่จำเลยรับล่วงหน้าไปคิดถัวตามระยะเวลาเป็นเงิน 4,667 บาท ให้แก่โจทก์แต่จำเลยไม่ชำระ จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 4,667 บาทให้แก่โจทก์ พร้อมทั้งดอกเบี้ย และเงินค่าทวงถามของทนายความ100 บาท ด้วย

จำเลยให้การว่า โจทก์ยอมชำระค่าเช่าคราวเดียวให้แก่จำเลยและจำเลยได้ส่งมอบห้องเช่าให้แก่โจทก์แล้ว ต่อมาได้เกิดไฟไหม้โดยมิใช่ความผิดของจำเลย โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าคืนไม่ได้

ชั้นชี้สองสถาน คู่ความรับกันว่าโจทก์เช่าห้องของจำเลยและได้ชำระค่าเช่าให้แก่จำเลยแล้วตามสัญญาเช่าท้ายฟ้อง ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ห้องที่โจทก์เช่าทั้งหมด โดยมิใช่ความผิดของโจทก์จำเลย ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อห้องแถวซึ่งเป็นวัตถุแห่งการเช่าซึ่งโจทก์เช่าจากจำเลยถูกไฟไหม้หมดสิ้น สัญญาเช่าย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 และตามมาตรา 372 วรรคแรก บัญญัติว่า ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ ลูกหนี้หามีสิทธิจะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ ทั้งมาตรา 568 วรรคแรก ก็ได้บัญญัติว่า ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปแต่เพียงบางส่วน และมิได้เป็นความผิดของผู้เช่า ผู้เช่าจะเรียกให้ลดค่าเช่าลงตามส่วนที่สูญหายก็ได้ เห็นได้ว่า ถ้าทรัพย์สินที่ให้เช่าสูญหายไปบางส่วนซึ่งมิได้เป็นความผิดของผู้เช่าแล้ว กฎหมายยังให้สิทธิแก่ผู้เช่าที่จะเรียกให้ผู้ให้เช่าลดค่าเช่าทรัพย์สินให้แก่ผู้เช่าลงตามส่วนได้ ฉะนั้น เมื่อทรัพย์สินที่ให้เช่าได้สูญหายไปหมดสิ้นเพราะถูกไฟไหม้ โดยมิใช่เป็นความผิดของโจทก์ผู้เช่า และโจทก์ผู้เช่ายังใช้ทรัพย์สินที่เช่าไม่ครบถ้วนตามอายุเวลาการเช่า ทั้งในสัญญาเช่าก็มิได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ว่า ผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าบางส่วนคืนจากผู้ให้เช่าในกรณีที่ทรัพย์สินที่ให้เช่าได้สูญหายไปเพราะเหตุใด ๆ แล้ว โดยมติที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเช่าห้องแถวที่ได้ชำระให้แก่จำเลยไปแล้วนั้นคือตามส่วนถัวของระยะเวลาที่โจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่าได้ ฉะนั้น จำเลยต้องคืนเงินค่าเช่าบางส่วนให้แก่โจทก์ตามฟ้อง

ส่วนที่ขอให้จำเลยใช้ค่าทวงถามของทนายความให้แก่โจทก์นั้นเห็นว่าค่าใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นผลโดยตรงอันเกิดจากการกระทำของจำเลย และในสัญญาเช่าก็ไม่ได้ระบุถึงเหตุที่จะให้จำเลยต้องรับผิดถึงค่าใช้จ่ายในเหตุนี้ไว้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินจำนวนนี้

พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 4,667 บาทแก่โจทก์ และดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าวนับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมสามศาลแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายให้ 400 บาท

Share