คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1310/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาซื้อของกันโดยตกลงราคากันเป็นเงินบาทสยามผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ชำระราคาตามกำหนดจนอัตราแลกเปลี่ยนเงินเปลี่ยนแปลงไปเงินบาทสยามแลกเงินเหรียญอเมริกันได้น้อยกว่าอัตราเดิม ค่าเสียหายของผู้ขายเนื่องแต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นค่าเสียหายพิเศษตาม ประมวลแพ่งฯ ม. 222 วรรค 2 ค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษจะเรียกร้องกันได้ต่อเมื่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นในขณะทำสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ทำสัญญาซื้อของจากโจทก์ตกลงราคากันเป็นเงินบาทสยามของเหล่านี้โจทก์ต้องสั่งจากอเมริกาเป็นเงินเหรียญทองอเมริกัน เมื่อพันกำหนดชำระเงินตามสัญญาแล้ว โจทก์มีหนังสือเตือนใจจำเลยชำระเงิน และว่าถ้าไม่ชำระเงิน จำเลยจะต้องรับผิดในการที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินได้เปลี่ยนแปลงไปจำเลยไม่ชำระเงินจนอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้เปลี่ยนแปลงไป และเงินบาทสยามแลกเงินเหรียญอเมริกันได้น้อยกว่าอัตราเดิมโจทก์จึงฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน ๓๐๒๐๐ บาท ๒๓ สตางค์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินต้องกันว่าค่าเสียหายเนื่องการเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนเงินเป็นค่าเสียหายพิเศษคู่สัญญาจะต้องคาดเห็นพฤตติการณ์พิเศษเช่นนี้ในขณะทำสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดส่วนที่โจทก์เตือนจำเลย ๆ มิได้รับสนองทั้งบอกปฏิเสธความรับผิดเสียด้วยเท่ากับโจทก์ตั้งข้อไขอีกข้อหนึ่งซึ่งจำเลยมิได้ยอมตกลงด้วย ย่อมไม่ผูกมัดจำเลยจึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ ฎีกาคัดค้านว่าตาม ม. ๒๒๒ วรรค ๒ ควรจะตีความว่า ฝ่ายผู้ผิดสัญญาต้องคาดเห็นพฤติการณฺ์หรือควรจะได้คาดเห็นเช่นนั้นล่วงหน้าก่อน คือก่อนเสียหายขึ้นแก่โจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยปฎิบัติกันมาในการซื้อขายของซึ่งโจทก์สั่งมาจากอเมริกานั้นบางรายก็ทำเป็นเงินเหรียญบาท จึงเป็นอันฟังได้ว่าความเสียหายอันเกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินอยู่นอกความคาดหมายของคู่สัญญา และแม้โจทก์จะได้มีจดหมายเตือนจำเลย ๆ ก็ปฎิเสธความรับผิดจะฟังว่าจำเลยทำการประมาทเลินเล่อมิได้ กรณีไม่อยู่ในบัญญติมาตรา ๒๑๕ – ๒๑๗ แห่งประมวลแพ่ง ฯ และในการที่จะผูดมัดให้เขารับผิดในค่าเสียหายเพราะพฤติการณ์พิเศษนั้น จะต้องแปลได้จากการทำสัญญาว่า คู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้คาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นพฤติการณ์เข่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว จึงพิพากษายืนตาม ศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาโจทก์

Share