คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่โจทก์บรรยายฟ้องในคดีนี้ว่า จำเลยใช้ปืนสั้นยิงผู้เสียหายหนึ่งนัด อันเป็นความผิดฐานพยายามฆ่านั้น เป็นการกระทำกรรมเดียว วาระเดียวกับการกระทำของจำเลยซึ่งอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแดงที่ 840/2507 โดยกล่าวหาแต่เพียงว่า จำเลยใช้ปืนสั้นยิงขู่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ใช้อาวุธปืน ศาลพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะเอาการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันมาฟ้องอ้างว่า ศาลยังมิได้พิพากษาในความผิดที่เกี่ยวกับชีวิตซึ่งอัยการอาจฟ้องไปในคดีนั้นได้ แต่มิได้ฟ้องนั้น ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) ไม่ได้หมายถึงในฐานความผิด แต่หมายถึงการกระทำก่อให้เกิดความผิดนั้นๆ สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้กำลังกายเตะ ถีบ และมีมีดกับปืนเป็นอาวุธโดยใช้เท้าเตะ ถีบโจทก์ตกจากร้านอาหารล้มลง ทันใดนั้นได้ใช้มีดพกปลายแหลมเข้าจ้วงแทงบริเวณหน้าอกโจทก์ มีผู้มาขัดขวาง จำเลยจึงแทงโจทก์ไม่ตาย แล้วจำเลยวิ่งไปที่บ้านจำเลยเอาปืนสั้นมายิงโจทก์ 1 นัด แต่พลาดไม่ถูก โดยจำเลยไตร่ตรองไว้ก่อนขอให้ลงโทษตามมาตรา 288, 289(4), 80

จำเลยให้การปฏิเสธ

ทางพิจารณาได้ความว่า วันเกิดเหตุเวลา 8.00 น. จำเลยได้ทำร้ายร่างกายนายสุชาติที่ร้านนายประเสริฐ หลังจากนั้นราว 10 นาทีเมื่อนายสุชาติและจำเลยกลับจากร้านนายประเสริฐแล้ว จำเลยได้ยิงปืนที่บ้านจำเลย ขณะนั้นนายสุชาติอยู่ข้างบ้านนายเอี่ยม ต่อมาจำเลยถูกพนักงานอัยการฟ้องหาว่าใช้เท้าเตะทำร้ายร่างกายนายสุชาติและหาว่าใช้ปืนยิงผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยรับสารภาพ ศาลลงโทษจำเลยแล้วตามคดีแดงที่ 840/2507 และ 841/2507

ศาลชั้นต้นเห็นว่าสิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรื่องใช้อาวุธปืน เหตุเกิดต่างเวลาและสถานที่กับเรื่องทำร้ายร่างกาย และคดีแดงที่ 840/2507 ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานใช้อาวุธปืนยิง เป็นผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ยังมิได้พิพากษาในความผิดเกี่ยวกับชีวิตฟ้องโจทก์ที่หาว่าจำเลยใช้ปืนยิงจึงไม่ซ้ำกับคดีแดงที่ 840/2507 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยใช้ปืนยิงหนึ่งนัดตามฟ้องคดีนี้เป็นการกระทำกรรมเดียววาระเดียวกับการกระทำของจำเลยซึ่งอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแดงที่ 840/2507 โดยกล่าวหาแต่เพียงว่า จำเลยใช้ปืนสั้นยิงขู่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ใช้อาวุธปืน เมื่อศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะเอาการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันมาฟ้องจำเลยอีกโดยอ้างว่าศาลยังมิได้พิพากษาในความผิดที่เกี่ยวกับชีวิตซึ่งอัยการอาจฟ้องไปในคดีนั้นได้ แต่มิได้ฟ้องนั้นไม่ได้ เพราะมาตรา 39 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติว่า สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป (4) เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง นั้น ไม่ได้หมายถึงในฐานความผิดแต่หมายถึงการกระทำที่ก่อให้เกิดความผิดนั้น ๆ ดังนั้น ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share