คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถยนต์บรรทุกดินลูกรังสูงเกินกำหนด พอถึงจุดตรวจซึ่งมีแผงเหล็กเครื่องหมาย ‘หยุด’ ตั้งอยู่กลางถนนเจ้าพนักงานตำรวจได้เป่านกหวีดและให้สัญญาณให้จำเลยหยุดจำเลยกลัวถูกจับจึงไม่หยุดรถ แต่กลับเร่งเครื่องยนต์หลีกเครื่องหมายจราจรพุ่งเข้าใส่เจ้าพนักงานตำรวจที่ยืนอยู่ทางซ้าย 2-3 คน แต่เจ้าพนักงานตำรวจกระโดดหลบเสียทันดังนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่า รถยนต์ที่จำเลยขับพุ่งเข้าใส่เช่นนั้นจะต้องชนเจ้าพนักงานตำรวจที่ยืนอยู่ในถนนถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จ่าสิบตำรวจทองนาคกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธร อำเภอยางตลาด ได้ตั้งจุดตรวจรถยนต์ตรงหน้าสถานีตำรวจ จำเลยขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ บรรทุกสูงเกินขอบกระบะและแล่นมาด้วยความเร็วสูงผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบกจะผ่านจุดตรวจดังกล่าว จ่าสิบตำรวจทองนาคกับพวกให้จำเลยหยุดรถเพื่อจับกุม จำเลยเร่งเครื่องแล้วขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนโดยเจตนาฆ่าจ่าสิบตำรวจทองนาคกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล เนื่องจากจ่าสิบตำรวจทองนาคกับพวกกระโดดหลบได้ทันท่วงที จ่าสิบตำรวจทองนาคกับพวกจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 80 ประกอบด้วย มาตรา 52(1) และลดโทษให้ตามมาตรา 78,53 ให้ลงโทษจำคุก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยและวินิจฉัยต่อไปว่า จ่าสิบตำรวจทองนาคและจ่าสิบตำรวจอุทิศทำหน้าที่ตรวจรถยนต์อยู่ที่จุดตรวจ เมื่อจำเลยขับรถยนต์บรรทุกเข้ามาในระยะ 15 เมตร จ่าสิบตำรวจทองนาคเป่านกหวีดและให้สัญญาณให้จำเลยหยุดรถ จำเลยกลับเร่งเครื่องยนต์ขับรถพุ่งเข้าใส่จนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนดังกล่าวต้องกระโดดหลบไปที่ขอบถนนมิฉะนั้นจะถูกชน ในชั้นสอบสวนจำเลยก็ยอมรับว่า เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจคนหนึ่งเป่านกหวีดให้สัญญาณให้จำเลยหยุดรถ จำเลยกลัวถูกจับจำเลยจึงเร่งเครื่องยนต์หลีกเครื่องหมายจราจรเข้าหาเจ้าพนักงานตำรวจที่ยืนอยู่ทางซ้าย 2 – 3 คน พอรถใกล้จะถึงตำรวจดังกล่าวก็กระโดดหนี การที่จำเลยกลัวถูกจับจึงไม่หยุดรถตามคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจ กลับเร่งเครื่องยนต์ขับรถพุ่งเข้าใส่เจ้าพนักงานตำรวจเช่นนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่ารถยนต์ที่จำเลยขับพุ่งเข้าใส่เช่นนั้นจะต้องชนเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งยืนอยู่ในถนนข้างแผงเหล็กนั้นถึงแก่ความตายได้ ฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา และจำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลเพราะเจ้าพนักงานตำรวจกระโดดหลบเสียทัน จึงไม่ถูกรถยนต์บรรทุกคันที่จำเลยขับพุ่งเข้าชนถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฎิบัติการตามหน้าที่

พิพากษายืน

Share