แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
กรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ระดับ 3 ขึ้นไป และเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ระดับ 4 ขึ้นไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ โดยมีหน้าที่ รับแบบตรวจสอบรายการ สถานที่ กำหนดค่ารายปี เสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการตามคำสั่งหัวหน้าเขต จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ตามคำสั่งกรุงเทพมหานครหรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ การที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินน้อยกว่าที่ควรจะต้องเสีย จึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 154,157 คืนของกลางแก่เจ้าของ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 จำคุก 5 ปี ของกลางคืนเจ้าของ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหาย 3,000บาท เพื่อจะช่วยให้ผู้เสียหายเสียภาษีน้อยลงกว่าที่จะเสียจริงและวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ส่วนในข้อที่ว่า การเรียกเอาเงินดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้วว่า จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 งานรายได้ เขตดุสิตและนายสุนทร ณ สงขลา พยานโจทก์เบิกความว่า พยานเป็นหัวหน้าเขตดุสิต เป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลย หัวหน้าเขตดุสิตได้ออกคำสั่งเขตดุสิตที่ 241/2526 เรื่องการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบในงานรายได้ ตามเอกสารหมาย จ.8 ซึ่งมีข้อความว่าในงานรายได้ หมวดภาษีโรงเรือนและที่ดิน ให้มีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานและรับผิดชอบ ดังนี้ 3. นายชวลิต สายสิญจน์(จำเลย) เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 3 เป็นเจ้าหน้าที่ประจำแขวงวชิรพยาบาล แขวง สวนจิตรลดา แขวงดุสิต และแขวงสี่แยกมหานาคให้รับผิดชอบและปฏิบัติงานเกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บและเร่งรัดภาษีโรงเรือนฯ ตามแขวงของตนให้เกิดผลดีแก่ราชการโดยมีหน้าที่ ดังนี้
1. รับแบบ ภ.ร.ด.2 ตรวจสอบรายการสถานที่ กำหนดค่ารายปีเสนอหัวหน้างานพิจารณาสั่งการทุกราย
2. รวบรวมเก็บรักษา ภ.ร.ด.2 ประจำปีต่าง ๆ เป็นหมวดหมู่จัดลำดับให้เรียบร้อยสามารถตรวจสอบค้นหาได้ทุกเวลา
3. ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตามที่ตนรับผิดชอบ โดยมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ 1537/2519 เรื่องวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีโรงเรือนฯ
4. บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานในหน้าที่ต่อประชาชนผู้มาติดต่อให้เข้าใจและเกิดผลดีแก่ทางราชการตลอดจนให้อำนายความสะดวกแก่ประชาชนด้วยดี
5. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่หัวหน้างานรายได้สั่งการหรือมอบหมายและโจทก์ได้ส่งอ้างคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 1577/2519เรื่องวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บภาษี เอกสารหมายป.จ. 2 ด้วยทั้งนายประดิษฐ์ เจียมจันทร์ หัวหน้างานรายได้เขตดุสิต เบิกความว่าพยานเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลย เมื่อจำเลยได้รับแบบเสียภาษีจากผู้ยื่นแล้ว ก็จะเสนอเจ้าหน้าที่ตามลำดับจนถึงพยาน แล้วพยานจะกำหนดค่ารายปีเพื่อเสียภาษีต่อไป การกำหนดค่ารายปีนั้น พิจารณาจากข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชา และจำเลยเบิกความตอบโจทก์ว่า จำเลยเป็นผู้รอบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีโรงเรือนและที่ดินเสนอให้หัวหน้างานรายได้พิจารณาประเมินภาษี จากพยานหลักฐานดังกล่าวมาแล้วจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินในแขวงวชิรพยาบาล ซึ่งเป็นท้องที่ที่ตึกแถวของผู้เสียหายตั้งอยู่ ฉะนั้นการที่จำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายในคดีนี้เพื่อจะทำให้ผู้เสียหายเสียภาษีน้อยกว่าที่ควรจะต้องเสียจึงเป็นการกระทำเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง จำเลยจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ตามคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 429/2523หรือที่ 74/2525 หรือไม่ มิใช่สาระสำคัญ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน