คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระทรวงพาณิชย์ส่งผ้ามาให้ข้าหลวงประจำจังหวัดเพื่อขายแก่ชาวนา ข้าหลวงประจำจังหวัดมอบให้อำเภอเป็นผู้ขาย นายอำเภอจึงแต่งตั้งปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่อื่นเป็นกรรมการขายผ้าดังนี้เมื่อปลัดอำเภอผู้ได้รับการแต่งตั้งทำผิดหน้าที่ จนเกิดการเสียหายขึ้น กระทรวงพาณิชย์ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากปลัดอำเภอผู้นั้นได้
การขายผ้ามีระเบียบว่า เงินได้จากการขายให้ส่งต่อคณะกรรมการอำเภอรวมรวมส่งคณะกรรมการจังหวัดเป็นการด่วน ถ้าวันใดได้เงินที่ได้รับมีจำนวนถึงหมื่นบาท ให้คณะกรรมการอำเภอรีบส่งเงินแก่จังหวัดเสียคราวหนึ่งก่อน ห้ามมิให้เก็บเงินที่ได้จากการขายผ้าไว้ที่อำเภอเกินกว่าจำนวนหมื่นบาท ดังนี้เมื่อปลัดอำเภอขายผ้าได้เงินเกินหมื่นบาท แล้วไม่นำส่งจังหวัดกลับเอาไปเก็บไว้ในเซฟของอำเภอ จนมีผู้ร้ายไขเชฟลักเงินจำนวนนี้ไป ต้องถือว่าปลัดอำเภอผู้นั้นมิได้ปฏิบัติตามระเบียบโดยตรง และต้องรับผิดใช้เงินจำนวนนี้

ย่อยาว

ได้ความว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ส่งผ้ามาจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อขายแก่ชาวนา โดยติดต่อทางข้าหลวงประจำจังหวัดฯ มอบให้อำเภอศรีประจันต์ไปขาย นายสายจำเลยเป็นปลัดอำเภอเป็นกรรมการขายผ้าหน่วยหนึ่ง ได้ขายผ้าไป ๒ คราว ๆ แรกได้เงิน ๙๓๘๐ บาท คราวที่ ๒ ได้เงิน ๑๐๓๗๔ บาทแล้วเก็บไว้ในเซฟตามที่จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนายอำเภอสั่ง เพราะเสมียนตราไม่อยู่ต่อมามีคนร้ายไขกุญแจเซฟลักเงินค่าขายผ้ากับค่าพาหนะอื่นไปรวม ๓ หมื่นบาทเศษ
อนึ่งการขายผ้านี้มีระเบียบว่า เงินที่ได้จากการขายให้ส่งต่อคณะกรรมการอำเภอรวบรวมส่งคณะกรรมการจังหวัดเป็นการด่วนถ้าวันใดเงินที่ได้รับมี จำนวนถึงหมื่นบาท ให้คณะกรรมการอำเภอรีบนำส่งจังหวัดเสียคราวหนึ่งก่อน แม้การขายยังไม่เสร็จห้ามมิให้เก็บเงินทีไ่ด้จากการขายผ้าไว้ที่อำเภอเกินกว่าจำนวนหมื่นบาท
โจทก์จึงฟ้องขอให้นายชลอ จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนายอำเภอนายประชุมเสมียนตราอำเภอ และพลตำรวจพูล ยามเฝ้าสถานีตำรวจที่รักษาเซฟ รับผิดร่วมกันใช้เงิน ๓๖๖๐๒ บาทแก่โจทก์ให้นายสายจำเลยที่ ๒ รับผิดใช้เงิน ๑๙๗๕๔ บาท นายอาจรับผิดใช้เงิน ๑,๐๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้พลตำรวจพูลจำเลยที่ ๕ ใช้เงิน ๓๖๖๐๒ บาทแก่โจทก์ ให้นายชลอนายอำเภอจำเลยที่ ๑ ร่ามรับผิดกับพลตำรวจพูล ใช้เงินเพียง ๓๕,๖๐๒ บาท ให้นายสายจำเลยร่วมกันรับผิดกับพลตำรวจพูลและนายชลอเพียง ๑๙๗๕๔ บาท ยกฟ้องฉะเพาะนายอาจ นายประชุม
นายสายจำเลยที่ ๒ ผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายสายจำเลยที่ ๒ ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงและระเบียบการเก็บเงินรักษาเงิน มีดังกล่าวแล้วการที่นายสายจำเลยได้นำเงินเก็บไว้ในเซฟ มิได้ปฏิบัติตามระเบียบคือนำเงินส่งจังหวัดเช่นนี้ นายสายจะต้องรับผิดดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย
จึงพิพากษายืน

Share