แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้ผู้ให้กู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินกู้ 5,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ในวันสืบพยาน คู่ความแถลงท้ากันว่าที่จำเลยผู้กู้พิมพ์ลายนิ้วมือมีนายพ่วงนายใหญ่ผู้ให้กู้เป็นผู้เขียนและพยาน จะถือได้ไหมว่า การที่จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นเสมือนการลงลายมือชื่อตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 บัญญัติไว้ ถ้าหากศาลวินิจฉัยว่าเป็นลายมือชื่อสมบูรณ์แล้ว จำเลยยอมแพ้คดีไปทีเดียว หากไม่ถือว่าเป็นการลงลายมือชื่อ โจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ที่จำเลยฎีกาว่า พยานที่รับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 นั้น ต้องเป็นบุคคลอื่นเจ้าของเงินจะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้ไม่ได้เทียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 ที่จำเลยยกขึ้นมาอ้างนั้น เป็นเรื่องพยานในพินัยกรรม หาใช่เรื่องพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือไม่จะยกขึ้นมาปรับกับคดีนี้ไม่ได้ การเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้เงิน ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้ผู้ให้กู้ลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้
พิพากษายืน