แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโทษที่จะเพิ่มและจะลดมีกำหนด (กึ่งหนึ่ง ) เท่ากัน ศาลต้องให้หักกลบลบกันไม่ต้องเพิ่มไม่ต้องลด
แม้ ม. 293 จะกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงไว้ไม่เกิน 5 ปี แต่เมื่อมีการเพิ่มโทษ ผู้นั้นก็ยังต้องถูกเพิ่มโทษอีกโสดหนึ่งด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยล้วงกะเป๋าลักปากกาดินสอของนายสวัสดิ์รวมราคา ๑๔๕ บาท ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ จำเลยให้การรับสารภาพตลอดจนข้อเคยต้องโทษ พ้นโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ๔ ปี ตาม ม. ๒๙๓ เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตาม ม.๗๓ แต่ลดโทษกึ่งหนึ่งตาม ม.๕๙ โทษเพิ่มและโทษลดเสมอกันให้หักกลบลบกันไปไม่ต้องเพิ่มและไม่ต้องลดตาม ม. ๓๙
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าจำเลยต้องคำพิพากษาให้จำคุก ๔ ปี เพิ่มกึ่งตาม ม. ๗๓ เป็น ๖ ปี ลดกึ่งตาม ม. ๕๙ ควรเหลือโทษจำคุกเพียง ๓ ปี จึงเกินไป ๑ ปี และว่าศาลวางโทษจำคุกจำเลย ๔ ปี เพิ่มโทษ ตาม ม. ๗๓ อีก ๒ ปี รวมเป็น ๖ ปี เกินอำนาจตาม ม. ๒๙๓ ซึ่งกำหนดโทษอย่างสูงเพียง ๕ ปี
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องเราวการเพิ่มโทษและลดโทษนี้ ตาม ก.ม.อาญา ม. ๓๙ ได้กำหนดวิธีการไว้โดยเฉพาะว่า ถ้าโทษที่ควรเพิ่มและที่ควรลดมีกำหนดเสมอกันให้หักกลบลบกันไม่ต้องเพิ่มและไม่ต้องลดโทษที่จะเพิ่มและลดในคดีนี้กึ่งหนึ่งเท่ากัน ศาลจึงต้องปฏิบัติตาม ก.ม.ให้หักกลบลบกันไม่ต้องเพิ่มไม่ต้องลด,บทบัญญัติ ม.๒๙๓ กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงไว้ไม่เกิน ๕ ปีจริง แต่เป็นบทบัญญัติที่ยังไม่ได้มีการเพิ่มโทษ เมื่อมีการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบผู้นั้นก็ยังต้องถูกเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบอีกโสดหนึ่งด้วย พิพากษายืน