คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การกระทำความผิดของจำเลยเป็นเพียงแต่การไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ของกลางไม่ใช่สิ่งที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 74 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ศาลสั่งริบของกลางดังกล่าวไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 48, 69, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา จ่ายสินบนนำจับตามกฎหมายและริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 วรรคแรก จำคุก 1 ปีปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางทั้งหมดเว้นแต่ไม้แปรรูป และไม้ที่ยังมิได้แปรรูปจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยสำหรับข้อหาตั้งโรงงานแปรรูปไม้ด้วย ไม่ริบของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยกระทำผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่..พยานหลักฐานจำเลยที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องจำเลยสำหรับข้อหานี้ด้วยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย แต่ที่โจทก์ขอให้ริบของกลางด้วยนั้นเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยเป็นเพียงการไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ของกลางไม่ใช่สิ่งที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 74 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลจึงสั่งริบของกลางดังกล่าวไม่ได้ ฎีกาโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ของกลางทั้งหมดให้คืนเจ้าของ

Share