คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1731 ให้อำนาจศาลที่จะใช้ดุลพินิจพิจารณาว่ามีเหตุที่สมควรจะถอนผู้จัดการมรดกเพียงใดหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรก็สั่งถอนได้ หรือถ้าศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรศาลจะยังไม่สั่งถอนก็ได้.
พฤติการณ์เท่าที่ปรากฏยังไม่สมควรจะถอนผู้จัดการมรดก.

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางช้อย ทิพาเสถียร ต่อมาผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุตรของนางช้อยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกเสีย โดยอ้างว่าผู้ร้องไม่ซื่อตรงต่อทายาท ยักย้ายปิดบังทรัพย์มรดก ไม่แสวงหาทรัพย์มรดกและใช้จ่ายมรดกสิ้นเปลือง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า เพียงแต่ผู้ร้องไม่ได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกยื่นต่อศาลภายในกำหนดเท่านั้น ยังไม่เป็นเหตุให้ถอดถอนผู้ร้องจากผู้จัดการมรดก ให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายเขียวหวานผู้ร้องได้จัดการรวบรวมทรัพย์มรดกและเตรียมจะแบ่งให้ทายาท แต่ยังมิได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาและตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น มิใช่นายเขียวหวานเพิกเฉยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่เสียเลย คดียังไม่มีพฤติการณ์ส่อแสดงว่านายเขียวหวานเลินเล่อหรือกระทำการทุจริตหรือไม่สามารถจัดการทรัพย์มรดกแต่อย่างใด บัญชีทรัพย์มรดกที่นายเขียวหวานทำเสนอต่อศาลยังไม่ถูกต้องตามแบบที่กำหนดไว้ ก็พอจะได้ทำเสียให้ถูกต้องได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๓๑ ให้อำนาจศาลที่จะใช้ดุลพินิจพิจารณาว่ามีเหตุที่สมควรจะถอนผู้จัดการมรดกเพียงใดหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุสมควร ศาลก็สั่งถอนได้ หรือถ้าศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรศาลจะยังไม่สั่งถอนก็ได้ พฤติการณ์เท่าที่ปรากฏยังไม่สมควรจะถอนนายเขียวหวานจากผู้จัดการมรดกนางช้อย
พิพากษายืน ยกฎีกาผู้คัดค้าน

Share