คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1226-1227/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเปนคนในบังคับฝรั่งเศส ฎีกาได้แต่ในปัญหากฎหมาย ปัญหากฎหมาย ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดจากหลักฐานในสำนวน วิธีพิจารณาอาชญา ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเพิ่มโทษจำเลยที่โจทก์ไม่ได้ร้องขอขึ้นมา ลักษณพะยาน คำของผู้สมรู้ต้องมีพะยานประกอบ พะยานประพฤติเหตุ

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ตายเปนคนบังคับฝรั่งเศส ฎีกาได้แต่ในปัญหากฎหมายเท่านั้น
ศาลต่างประเทศตัดสินลงโทษประหารชีวิตนายอู๋ และจำคุกนายหลวน นายหว่างตลอดชีวิต
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำพะยานของโจทก์มีนายโอ่ผู้เดียวซึ่งได้ยินนายอู๋ใช้นายหว่าง นายหลวนให้ยิงผู้ตาย แต่พะยานคนนี้เปนผู้สมรู้กับจำเลย เมื่อไม่มีพะยานอื่นประกอบฟังลงโทษนายอู๋ไม่ได้ให้ปล่อยนายอู๋ และให้ประหารชีวิตนายหลวน นายหว่าง โดยโจทก์ไม่ได้ร้องขอ
โจทก์จำเลยฎีกาในปัญหากฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่าไม่มีพะยานประกอบคำนายโอ่นั้น ผิดจากข้อเท็จจริงในท้องสำนวน เปนปัญหากฎหมาย เพราะปรากฏว่าโจทก์มีพะยาน คือ ( ๑ ) นายอู๋กับผู้ตายโกรธกันเพราะการค้าขายแข่งขัน ( ๒ ) นายอู๋แสดงความประสงค์จะกำจัดผู้ตาย ( ๓ ) นายหว่าง นายหลวนเปนคนอยู่ในบ้านนายอู๋ตลอดมาจนถึงวันเกิดยิงกัน เมื่อยิงกันแล้วไม่มีใครพบเห็นอีก ( ๔ ) นายอู๋ได้จ้างนายจ่าง นายแป๊งแจวเรือไปส่งนายทา (ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงกันนี้) และนายจ๋วนที่ตำบลคลองชายเคือง แล้วนายทา นายจ๋วนถือปืนคนละกะบอกขึ้นบกไป ครั้นกลับมานายทานายจ๋วนพูดว่าไม่สำเร็จ ไม่พบผู้ตาย แล้วพากันกลับบ้านนายอู๋ ( ๕ ) นายอู๋ได้ขอให้นายทา นายหว่าง นายหลวนพักที่บ้านนายทองหล่อก่อนคืนวันยิงกัน รุ่งขึ้นผู้ตายก็ถูกยิง ศาลฎีกาเห็นว่าคำพะยานเหล่านี้ แม้จะไม่ฟังคำนายโอ่ก้พอลงโทษนายอู๋ได้แล้ว จึงตัดสินให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๓ คน ส่วนข้อค้านของนายหว่าง นายหลวนฟังไม่ขึ้น เพราะศาลอุทธรณ์มีอำนาจจะเพิ่มโทษได้

Share