แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานรับของโจรเฉพาะเตารีดไฟฟ้า และจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานรับของโจรเฉพาะวิทยุสเตอริโอเท่านั้น เมื่อทรัพย์ทั้งสองสิ่งนี้ผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายอีกแม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้ฎีกาปัญหานี้ขึ้นมาศาลฎีกาก็แก้ไขเสียให้ถูกต้องได้เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันมีอาวุธมีดปลายแหลมติดตัวไปชิงทรัพย์หลายรายการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,800 บาทของนางนิตยา ใจสุทธิ ผู้เสียหายไปโดยทุจริตโดยขู่ว่าจะฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การชิงทรัพย์ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ พาทรัพย์นั้นไป และให้พ้นจากการจับกุม จำเลยที่ 3 และที่ 4กับพวกร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกชิงไปดังกล่าว โดยจำเลยที่ 3และที่ 4 รู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ จำเลยทั้งสี่เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 2 และที่ 5 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 901/2526 และเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 4 ที่ 2 ที่ 1 และที่ 5 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 902/2526 ของศาลชั้นต้นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 339, 357 ที่แก้ไขแล้ว ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน หรือชำระราคาแทนเป็นเงิน3,100 บาท แก่ผู้เสียหายกับให้นับโทษจำเลยทั้งสี่ต่อกับโทษในคดีอาญาดังกล่าว
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพ จำเลยที่ 3 ที่ 4 ให้การปฏิเสธจำเลยทั้งสี่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง จำคุกคนละ 12 ปี จำเลยที่ 1ที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 6 ปี จำเลยที่ 3 ที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสองจำคุกคนละ 3 ปี ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนวิทยุเทปสร้อยคอทองคำ และพระเลี่ยมทอง หรือใช้ราคา 3,100 บาท แก่ผู้เสียหายคำขอให้นับโทษต่อให้ยก เพราะคดีดังกล่าวศาลยังมิได้มีคำพิพากษา
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานรับของโจรวิทยุสเตอริโอตามฟ้อง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า อนึ่งข้อเท็จจริงสำหรับจำเลยที่ 3 ศาลล่างก็ฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยที่ 3รับของโจรเฉพาะเตารีดไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งทั้งเตารีดไฟฟ้าและวิทยุสเตอริโอดังกล่าวผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว ดังนั้น จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายอีกแม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาปัญหานี้ขึ้นมา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องด้วย เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 ให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยจำเลยที่3 และที่ 4 ไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.