แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่พนักงานอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดหลายอย่างท้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน เมื่อไม่ปรากฏในฟ้องโดยชัดเจนว่าความผิดต่อส่วนตัวนั้นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว แม้จะกล่าวในฟ้องว่าได้มีการสอบสวนแล้วก็ตามศาลรับพิจารณาความผิดต่อส่วนตัวนั้นมิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพและฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ จำเลยตาม ม. ๒๖๘ กะทงหนึ่ง และตาม ม. ๑๒๐ แห่ง กฎหมายอาญาอีกกะทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าความผิดตาม ม. ๒๖๘ ตอน ๑ – ๒ เป็นความผิดส่วนตัวเมื่อโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าว โจทก์ก็ฟ้องจำเลยมิได้ จึงให้ยกฟ้องโจทก์ ในฐานนี้เสีย คงยืนตามศาลชั้นต้นฉะเพาะเรื่องต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ศาลฎีกาตัดสินว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดหลายอย่างทั้งส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน แม้อัยยการโจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าได้สอบสวนความผิดของจำเลยแล้วก็ตามจะฟังเป็นแน่ว่าได้มีการร้องทุกข์ในความผิดต่อส่วนตัวแล้วไม่ได้โจทก์ต้องกล่าวในฟ้องให้ชัดเจนว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้จำคดีขึ้นว่ากล่าวจึงจะรับพิจารณาได้จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาโจทก์