แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องหาว่าหมิ่นประมาทโดยกล่าวว่า จำเลยมีจดหมายอันมีข้อความหมิ่นประมาทถึงและว่าจำเลยส่งสำเนาโฆษณาไปยังอีกคนหนึ่งด้วย ดังนี้ ยังไม่เป็นการกล่าวต่อหน้าหรือกล่าวแก่คนสองคน ไม่ต้องด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท
ฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น เพียงแต่อ้างหนังสือที่ว่าหมิ่นประมาทมาท้ายฟ้องไม่พอจะต้องระบุในฟ้องให้ชัดเจนด้วยว่า ข้อความตอนไหนเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับหนังสือจากจำเลย อันมีข้อความหมิ่นประมาทโจทก์หลายอย่าง เช่นว่า โจทก์เป็นคนเลวทราม ทั้งการกระทำและคำพูดซึ่งหมายความว่า เป็นคนชั่วร้ายที่สุดไม่มีอะไรจะชั่ว เช่น ลัก, ฉ้อ, ยักยอกเป็นต้น ดังปรากฎท้ายฟ้อง และโจทก์ทรายว่าจำเลยส่งสำเนาโฆษณาไปยังอธิบดีกรมโยธาเทศบาลด้วย ขอให้ลงโทษตาม มาตรา ๒๘๒, ๒๘๖
ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อความในจดหมายของจำเลยหาได้มีข้อความว่า โจทก์เป็นผู้ร้ายปล้น ฉ้อ, ยักยอกดังกล่าวในฟ้องใน และโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้ชัดแจ้งว่า ข้อความใด, วรรคใด, ตอนใด, ที่เป็นที่เสียหายต่อชื่อเสียงของโจทก์ และเรื่องนี้มิใช่กล่าวต่อหน้าหรือกล่าวต่อคนสองคน จึงไม่ต้องด้วยลักษณะหมิ่นประมาท จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง