แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
+มาบอกว่าจำเลยกระทำกฎหมายมาแล้ว ตำรวจตามจำเลยแล้วบอกให้จำเลยไปสถานีตำรวจเลยไม่ยอมไปกลับต่อยตำรวจ ๆ จึงจับจำเลยเช่นนี้ จำเลยต้องมีจะอ้างว่าตำรวจนั้นไม่มีหมายมิได้
ย่อยาว
ได้ความว่าเดิมเจ้าพนักงานไปจับผู้ลักเล่นการพะนันโปปั่นจับได้บ้างหนีไปบ้าง ต่อมามีคนมาแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้เล่นการพะนันด้วยผู้หนึ่ง พลตำรวจ อ.จึงออกไปตามจำเลยพบที่ถนน พลตำรวจ อ.บอกจำเลยให้ไปสถานีตำรวจ จำเลยไม่ยอมไป จำเลยไม่ยอมและต่อยพลตำรวจ อ.ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลย ๓ เดือนปรับ ๓๐ บาท ตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๕
โจทก์ฎีกาว่าพลตำรวจ อ.ไม่มีอำนาจจับได้ เพราะไม่มีหมายตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา ๗๘
ศาลฎีกาตัดสินว่าเรื่องนี้มีผู้มายืนยันว่าจำเลยทำผิดแล้วหนีไป ตำรวจพูดให้จำเลยไปโดยดี จำเลยไม่ยอมไป จึงเป็นเหตุให้คิดว่า ถ้าไม่จับทันทีจะหลบหนี ตำรวจจึงย่อมจับได้ อนึ่งตามข้อ ๓ มาตรา ๗๘ ที่จำเลยอ้าง แม้เพียงสงสัยว่าจะทำผิดมาแล้วและจะหลบหนียังจับได้ จึงให้ยกฎีกาจำเลย