คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฎีกาของจำเลยเพียงแต่ ยก มาตรา 69 พ.ร.บ. ประมงฯขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลใช้ ดุลพินิจ ไม่ริบของกลาง แต่ ไม่ได้กล่าวในฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบของกลางตาม มาตรา 70 พ.ร.บ. ประมงฯนั้น ไม่ถูกต้องในข้อใด อย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 216.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490มาตรา 32(2) (4), 65, 69, 70 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในทะเลสาบจังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2515พระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 5 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) (4), 65, 69, 70ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในทะเลสาบจังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2515 พระราชบัญญัติการประมง(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 5 จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ของกลางในคดีเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) และมาตรา 70เพราะเป็นเครื่องมือทำการประมงที่กำหนดห้ามใช้ไว้ให้รู้ ผู้ใดจะใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำภายในเขตหรือรัศมีที่ห้ามไว้มิได้เลยของกลางจึงต้องริบตามมาตรา 70 กรณีหาอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 69 ซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจริบหรือไม่ริบของกลางก็ได้ไม่ที่จำเลยฎีกาว่า ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 69ที่แก้ไขแล้ว มีเจตนารมณ์ให้ศาลใช้ดุลพินิจในการริบของกลางหรือไม่ก็ได้ จำเลยกระทำผิดเพียงเล็กน้อยและเพิ่งกระทำผิดเป็นครั้งแรกหากต้องริบของกลางซึ่งเป็นเครื่องมือหากินของจำเลยแล้ว จำเลยจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ศาลชั้นต้นไม่ริบของกลางตรงกับเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเพียงแต่ยกมาตรา 69ขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจไม่ริบของกลาง แต่ไม่ได้กล่าวในฎีกาเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบของกลางตามมาตรา 70 นั้น ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ทั้ง ๆ ที่ศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าจะนำมาตรา 69 มาใช้กับคดีนี้ไม่ได้ ฎีกาของจำเลยเช่นนี้ไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาจำเลย.

Share