คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดาของจำเลยเป็นผู้ติดต่อรับซื้อรถจักรยานยนต์จากคนร้ายตลอดมา. ส่วนจำเลยได้นำเอารถจักรยานยนต์เหล่านั้นไปฝากญาติไว้เพื่อหาคนซื้อต่อไปตามที่บิดาของจำเลยใช้ให้ไป.ดังนี้. บิดาของจำเลยและจำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357.

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษารวมกันกับคดีอาญาดำที่ 2759/2507 โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจร่วมกันกับพวกที่โจทก์ฟ้องอีกคดีหนึ่ง เป็นตัวการลักรถจักรยานยนต์ของกลาง หรือบังอาจสมคบร่วมกันกับพวกรับเอารถจักรยานยนต์ดังกล่าวไว้จากคนร้ายโดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357, 83 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นฟังว่าความผิดฐานลักทรัพย์ โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะลัก จึงลงโทษจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์ไม่ได้ ส่วนข้อหารับของโจรฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมรับรถของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นรถที่ได้มาจากการลัก พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357, 83 ลดรับแล้วคงจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน นายสุทัศน์นายจำนงค์จำเลยในคดีอาญาดำที่ 2759/2507 แดงที่2317/2508 ของศาลชั้นต้น และพลทหารสุเทพจำเลยในคดีนี้ต่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า รูปคดีมีพฤติการณ์ให้เชื่อว่านายสุทัศน์และนายจำนงค์จำเลยซึ่งโจทก์แยกฟ้องอีกคดีหนึ่งนั้น ได้รับรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ สำหรับพลทหารสุเทพจำเลยคดีนี้ หลักฐานพยานโจทก์ฟังไม่ได้ พิพากษาแก้เฉพาะพลทหารสุเทพจำเลยให้ยกฟ้องนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษพลทหารสุเทพจำเลย ศาลฎีกาฟังว่า พลทหารสุเทพจำเลยได้เอารถจักรยานยนต์ของกลางนี้ไปฝากนายจำนงค์ไว้ตามที่บิดาใช้ให้ไป อันเป็นความผิดฐานรับของโจร จะอ้างเหตุที่บิดาใช้ให้ทำก็ต้องทำเพื่อไม่ต้องรับโทษหาได้ไม่ พิพากษาแก้ ให้ลงโทษพลทหารสุเทพจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share