แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันจัดหางานให้ผู้เสียหายซึ่ง เป็นคนหางานไปทำงานในประเทศ สิงคโปร์ โดย เรียกและรับค่าบริการ แต่ ในความผิดฐาน ฉ้อโกงโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองโดย ทุจริตร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายด้วย การแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง ซึ่ง ควรบอกให้แจ้งว่ามีงานให้ทำและจำเลยทั้งสองจะจัดให้ผู้เสียหายทำงานที่ประเทศ สิงคโปร์ อันเป็นความเท็จ ซึ่ง ความจริงแล้วไม่มีงานให้ทำ จำเลยไม่มีเจตนาและไม่สามารถที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศ สิงคโปร์ ได้ เพราะจำเลยทั้งสองมิได้รับอนุญาตให้จัดหางานเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยทั้งสองมิได้มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายแต่ อย่างใดจำเลยทั้งสองเพียงแต่อ้างการจัดหางานเพื่อให้ได้ เงินค่าบริการจากผู้เสียหายเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐาน จัดหางานโดย มิได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528ดัง โจทก์ฟ้อง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ เอง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ จำเลยทั้งสองโดยทุจริตร่วมกันหลอกลวงนายกองเหรียญชันชัยภูมิ กับพวกซึ่งเป็นผู้เสียหายรวม 6 คน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งว่ามีงานให้ทำและจำเลยทั้งสองจะจัดให้ผู้เสียหายทั้งหกทำงานที่ประเทศสิงคโปร์มีรายได้ดี อันเป็นเท็จ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีงานให้ทำ จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาและไม่สามารถที่จะส่งผู้เสียหายทั้งหกไปทำงานประเทศสิงคโปร์ได้ เพราะจำเลยทั้งสองมิได้รับอนุญาตให้จัดหางานเพื่อส่งคนงานไปทำงานประเทศสิงคโปร์ จำเลยทั้งสองมีเจตนาฉ้อโกงทรัพย์ผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว จากการหลอกลวงดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งหกหลงเชื่อ มอบเงินรวมเป็นเงินทั้งหมด 86,000 บาทให้แก่จำเลยทั้งสองไป และจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้งหกซึ่งเป็นคนหางานไปทำงานในประเทศสิงคโปร์โดยจำเลยทั้งสองเรียกและรับค่าบริการจากผู้เสียหายทั้งหกนี้ โดยจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลางตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 341 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 4, 30, 82 ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้เงิน แก่ผู้เสียหายทั้งหก
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30วรรคหนึ่ง, 82 จำคุกคนละ 3 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 2 ปี นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานตามฟ้องหรือไม่เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้งหกซึ่งเป็นคนหางานไปทำงานในประเทศสิงคโปร์โดยเรียกและรับค่าบริการแต่ในความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองโดยทุจริตร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหกด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งว่ามีงานให้ทำ และจำเลยทั้งสองจะจัดให้ผู้เสียหายทั้งหกทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ อันเป็นความเท็จซึ่งความจริงแล้วไม่มีงานให้ทำ จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาและไม่สามารถที่จะส่งผู้เสียหายทั้งหกไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ได้เพราะจำเลยทั้งสองมิได้รับอนุญาตให้จัดหางาน จำเลยทั้งสองมีเจตนาฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว จากการหลอกลวงดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งหกหลงเชื่อมอบเงินแก่จำเลยทั้งสองไป เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยทั้งสองมิได้มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายทั้งหกแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองเพียงแต่อ้างการจัดหางานเพื่อให้ได้เงินค่าบริการจากผู้เสียหายทั้งหกเท่านั้นการกระทำของจำเลยทั้งสองตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2528 ดังโจทก์ฟ้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าว ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยทั้งสองต่อไป…”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.