แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
่วัดสุดท้ายที่มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยาน เป็นวันหยุดราชการซึ่งหยุดติดต่อกัน 3 วัน เมื่อครบกำหนดวันหยุด ผู้ร้องก็ยื่นบัญชีระบุพยานทันที แล้วนำพยานมาให้สืบในวันนัดด้วยนั้น เห็นได้ว่าผู้ร้องไม่จงใจฝ่าฝืน ฉะนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ควรให้รับบัญชีระบุพยานนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
ย่อยาว
คดีนี้ เดิมโจทก์ได้ยึดที่ดินเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องคัดค้านว่า ที่ดินที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ขอให้ถอนการยึด
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำสืบก่อน แต่ผู้ร้องมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน ๓ วัน จึงมีคำสั่งว่า กรณีไม่ใช่วันสุดท้ายแห่งระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๑ ให้งดสืบพยานผู้ร้องแล้วพิพากษาให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องมิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบหรือทอดทิ้งคดีและไม่เป็นการทำให้โจทก์เสียเปรียบแต่ประการใด พิพากษากลับให้รับบัญชีพยานขอผู้ร้องไว้
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลนัดสืบพยานผู้ร้องวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๐๓ ผู้ร้องยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ ๑๕ เดือนเดียวกัน และรุ่งขึ้นได้นำพยานมาเพื่อสืบ ทั้งนี้ผู้ร้องแถลงว่าตั้งใจจะยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ ๑๒ แต่เพราะเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถอันเป็นวันหยุดราชการและวันที่ ๑๓-๑๔ ก็เป็นเสาร์อาทิตย์หยุดราชการ จึงได้ยื่นบัญชีพยานในวันที่ ๑๕ ซึ่งเป็นวันเปิดทำงาน
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานได้จนถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๐๓ แต่เพราะเป็นวันหยุดราชการ และวันที่ ๑๓-๑๔ ก็หยุดติดต่อกัน รุ่งขึ้นวันที่ ๑๕ ผู้ร้องก็ยื่นบัญชีระบุพยานทันที แล้วนำพยานมาให้สืบในวันนัดสืบพยานเช่นนี้ เห็นได้ว่าผู้ร้องไม่จงใจฝ่าฝืน ฉะนั้น แม้ผู้ร้องจะยื่นเมื่อพ้นกำหนดดแล้ว แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม สมควรให้รับบัญชีระบุพยานของผู้ร้องดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗ (๒) ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน