คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)ได้ความว่าเอกสารแจ้งการครอบครองนั้น จำเลยนำยื่นเองลงชื่อจำเลยเอง ระบุว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครอง เป็นเอกสารของจำเลยอันแท้จริง ส่วนข้อความที่แจ้งจะถูกต้องหรือไม่เป็นแต่เรื่องแจ้งเท็จ มิใช่ปลอมหนังสือของใคร หรือตั้งใจให้เป็นหนังสือของคนอื่น หาเป็นการปลอมหนังสือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ปลอมแปลงหนังสือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) อันเป็นเอกสารสิทธิขึ้นใหม่ทั้งฉบับ โดยลงวันเดือนปีย้อนหลัง ลงชื่อนางพับภริยาจำเลยที่ 2 กับชื่อจำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์เพื่อให้ที่ดินแปลงนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 3 และนางพับต่อมาจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้นำเอกสารสิทธิดังกล่าวไปให้จำเลยที่ 4 ที่ 5 กับผู้อื่นลงชื่อเป็นพยานโดยจำเลยที่ 4 ที่ 5 รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม แล้วจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ได้นำเอกสารที่ทำปลอมแปลงนั้นไปแจ้งแก่จำเลยที่ 6 ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยที่ 6 ได้รับแจ้งไว้โดยรู้ว่าเอกสารสิทธินั้นทำขึ้นโดยมิชอบต่อมาจำเลยที่ 1 ได้นำเอกสารสิทธินั้นมาระบุอ้างเป็นพยานในคดีแพ่งขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 266, 267, 268 และ 83

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าไม่ใช่เป็นการปลอมหนังสือพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่า หนังสือแจ้งการครอบครองที่ดิน(ส.ค.1) ที่ทำขึ้นผิดความจริง โดยเขียนย้อนหลังไปลงใน พ.ศ. 2498ผู้อาศัยที่ดินของคนอื่นทำขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในกฎหมายที่ดินจะเป็นการปลอมหนังสือหรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่า เอกสารแจ้งการครอบครองนั้น จำเลยนำยื่นเองลงชื่อจำเลยเอง ระบุว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครอง เป็นเอกสารของจำเลยอันแท้จริง ส่วนข้อความที่แจ้งจะถูกต้องหรือไม่ เป็นแต่เรื่องแจ้งเท็จ มิใช่ปลอมหนังสือของใครหรือตั้งใจจะให้เป็นหนังสือของคนอื่นหาเป็นการปลอมหนังสือไม่ พิพากษายืน

Share