คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาขนส่งมีว่า ” ผู้รับจ้างยอมให้ผู้จ้าง+หน้าที่ควบคุมข้าวในระหว่างทำากรขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางฯลฯ” ดังนี้ ผู้ขนส่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมข้าวเพียงแต่จึดพาหนะขนส่งไปให้ถึงปลายทางเท่านั้น เมื่อข้าวสูญหายไปในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งผู้จ้างแต่งตั้ง ผู้ขนส่งก็ไม่ต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญารับจ้างขนข้าวสาร ๔๕๐ กระสอบจากโรงสีจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปส่งจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส โดยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยรับข้าวไปแล้วมิจัดส่งไปตามสัญญา จึงขอให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าปรับ ๑,๔๗๒,๕๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนคอยควบคุมและออกคำสั่งตลอดระยะเวลาและระยะทางตามสัญญาข้อ ๑๒ ระหว่างทางเรือถูกมรสุมดื่มลมจัด ตัวแทนของโจทก์สั่งให้ถ่ายกระสอบข้าวลงเรือลำอื่น โดยค่าใช้จ่ายของจำเลย แล้วออกเรือและควบคุมไปตามลำพังจำเลยไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ ๒ ไม่รับรองสัญญาค้ำประกันเพราะเป็นการกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี และปฏิเสธความรับผิดเช่นเดียวกับจำเลยที่ ๑
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามสัญญาข้อ ๑๒ ว่าผู้รับจ้างยอมให้ผู้จ้างส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมข้าวในระหว่างทำการขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ได้เป็นจำนวนไม่เกินสามตน และสัญญาจะออกค่าใช้จ่ายในการเดิน ฯลฯ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางซึ่งเป็นตัวแทน ของโจทก์ คือ ส.ต.ท.พบกับ ส.ต.ท.อนันต์ ผู้ควบคุมข้าวซึ่งทางการแต่งตั้ง ผู้ขนส่ง ( จำเลย ) ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมข้าว เพียงแต่จัดพาหนะขนส่งไปให้ถึงปลายทางเท่านั้น เมื่อข้าวสูญหายไปในความควบคุมของตำรวจทั้งสองที่ทางการแต่งตั้ง จำเลยไม่เป็นฝ่ายผิดสัญญาดังฟ้อง
พิพากษายืน

Share