แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยต้องคำพิพากษาให้+++ไม่มีเงินเสียค่าปรับ++ต้องจำแทน จำเลยเป็น++มีครรภ์แก่ ศาลจึงสั่งจำคุก+การบังคับโทษจำคุกไว้แล้วมอบตัวจำเลย+++อยู่ในความควบคุมของพจ้าพนักงานฝ่ายปกครองจำเลยต้องขังมาก่อนคำพิพากษา 4 วัน และต้องควบคุมดังกล่าวข้างต้นอีก 2 วัน ดังนี้ ศาลสั่งปล่อยจำเลยได้โดยอาศัยกฎหมายอาญา ม. 32
ย่อยาว
จำเลยเป็นหญิงมีครรภ์ ๙ เดือนต้องคำพิพากษาให้ปรับ ๓๐ บาท ตาม พรบ ภาษีชั้นใน แต่ไม่มีเงินเสียค่าปรับจักต้องจำแทนจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลว่ามีครรภ์ แต่ขอทุเลาการบังคับโทษจำคุกไว้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม. ๒๔๖ (๓) แล้วมอบจำเลยให้เจ้าพนักงานปกครองจัดให้จำเลยอยู่ในความควบคุมจำเลยต้องขังมาก่อนพิพากษา ๔ วัน ต้องควบคุมในระหว่างทุเลาการบังคับอีก ๒๖ วัน
ศาลชั้นต้นสั่งปล่อจำเลยโดยกล่าวว่าต้องจำขังครบกำหนดโทษแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เอาตัวจำเลยมาจำคุกแทนค่าปรับอีก ๒๖ วัน โดยหักวันที่ต้องขังชั้นสอบสวน ๔ วันออก
ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยในคดีนี้ต้องถูกจำคุกแทนค่าปรับไม่อยู่ใน%านะเป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก จึงไม่มีบทกฎหมายใดจะนำมาหรับในการนับโทษในกรณีเช่นนี้โดยตรง แต่อาจนำกฎหมายอาญา ม. ๓๒ มา ใช้ได้ เพราะการที่จำเลยถูกควบคุมตัวด้วยลักษณเหมือนผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนดังนี้ ควรนับระยะเวลานั้นอุทธรณ์ให้บังคับคดี ตามการนับโทษที่ศาลชั้นต้นสั่งไว้นั้น