แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว นัดเลื่อนไปสืบพยานจำเลย ถึงกำหนดนัดจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล รุ่งขึ้นจำเลยมายื่นคำร้องว่า เป็นเพราะทนายจำเลยพลั้งเผลอ จดวันนัดผิดไปดังนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนว่า เป็นความจริงตามคำร้องหรือไม่ เพราะแม้เป็นความจริงตามคำร้องก็ยังเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเอง ศาลจึงย่อม มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้ทีเดียว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยผิดสัญญา จึงบอกเลิกสัญญา ขอเงินมัดจำคืน จำเลยไม่คืนให้ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ผิดสัญญา โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว นัดสืบพยานจำเลย แต่จำเลยไม่มาตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นจึงสั่งไม่อนุญาตให้จำเลย สืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยคืนเงินมัดจำให้โจทก์.
จำเลยอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยผิดสัญญาจริง.
ส่วนข้อที่จำเลยขอให้+ให้ไต่สวนคำร้องขอสืบพยานของจำเลยนั้น ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้จะรับฟังเป็นความจริง ตามคำร้องของจำเลยว่า เหตุที่จำเลยขาดนัดพิจารณาเป็นเพราะทนายจำเลยจดวันนัดผิดไปก็ดี ก็เห็นว่าเป็นความผิด ของฝ่ายจำเลยเอง ทั้งจำเลยก็มิได้จัดการขอหมายเรียกพยานอย่างไรไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลไม่จำเป็นจะต้องไต่สวน ว่าเป็นความจริง ตามคำร้องหรือไม่ เพราะในคำร้องนั้นเองเพียงพอที่ศาลจะสั่งได้ โดยไม่ต้องไต่สวนก่อน
จึงพิพากษายืน