แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน พ.ศ.2471 มาตรา 7 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2489 มาตรา 3 นั้น มุ่งประสงค์จะลงโทษผู้ประกอบกิจการประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะตัว ผู้กระทำผิดจะต้องเป็นผู้ประกอบกิจการประกันภัยเอง ผู้การทำการเพียงเป็นตัวแทนหรือนายหน้าไม่มีความผิด เมื่อจำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนหรือนายหน้าหาลูกค้าเท่านั้น โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2507)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโดยมิได้รับอนุญาต ได้เป็นตัวแทนของบริษัทนครหลวงสงเคราะห์เศรษฐกิจ จำกัด โฆษณาชักจูงประชาชนให้เข้าเป็นสมาชิกวิวาหสงเคราห์และฌาปนกิจสงเคราะห์ของบริษัทดังกล่าว ได้สมาชิกวิวาทสงเคราะห์ ๗ คน โดยสมาชิกแต่ละคนต้องชำระเงินเมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกให้แก่บริษัทผ่านจำเลยเป็นรายงวด งวดละ ๑๒ เดือนคนละ ๓๐๕ บาท งวด ๖ เดือน คนละ๑๖๕ บาท งวด ๓ เดือนคนละ ๘๕ บาทและต้องส่งครบ ๗ ปีผลประโยชน์ที่สมาชิกได้รับ คือผู้มีอายุการเป็นสมาชิ ๑๘ เดือนถึง ๓ ปี แล้วทำการสมรส บริษัทจะจ่ายเงินสงเคราะห์ให้ ๕,๐๐๐ บาท ถ้าตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไปได้ ๗,๕๐๐ บาท กับได้สมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ ๒ คน โดยสมาชิกแต่ละคนต้องชำระเงินเมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกให้แก่บริษัทโดยผ่านจำเลยเป็นรายงวดๆ ละ ๖ เดือนต่อครั้ง คนละ ๑๖๕ บาท เมื่อส่งรวม ๘ ครั้งแล้ว ไม่ต้องส่งอีก ผลประโยชน์ที่สมาชิกได้รับ คือ เมื่อผู้ที่มีอายุการเป็นสมาชิก ๑ ถึง ๓ ปี ถึงแก่กรรม บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ทายาท ๑๐,๐๐๐ บาท โดยคำนวณจากสมาชิก ๕,๐๐๐ คน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยและผาสุกแห่งสาธารณชน พ.ศ.๒๔๗๑ มาตรา ๗,๘ และฉบับที่ ๓ พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๓
จำเลยให้การว่า จำเลยในฐานะตัวแทนได้รับบุคคลผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ตามจำนวนในฟ้อง โดยจำเลยสำคัญผิดว่าบริษัทได้รับอนุญาต หากการประกอบกิจการเป็นผิดจำเลยในฐานะตัวแทนก็ยังไม่ควรผิด และกิจการไม่คล้ายคลึงกับการประกันภัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง ปรับ ๑,๕๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เฉพาะกิจการที่เกี่ยวกับวิวาหสงเคราะห์ไม่มีสภาพคล้ายคลึงการประกันชีวิต พิพากษาแก้ ปรับ ๑,๐๐๐ บาท
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน พ.ศ.๒๔๗๑ มาตรา ๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน(ฉบับที่ ๓)พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๓ นั้น มุ่งประสงค์จะลงโทษผู้ประกอบการประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะตัว ผู้กระทำผิดจะต้องเป็นผู้ประกอบกิจการประกันภัยเอง ผู้กระทำการเพียงเป็นตัวแทนหรือนายหน้าไม่มีความผิด การประกอบกิจการประกันภัยนั้นจะสำเร็จลงได้ต้องประกอบด้วยคู่สัญญาสองฝ่าย คือผู้รับประกันภัยและผู้เอาประกันภัยเข้าทำสัญญากัน เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิใช่ตัวผู้กระทำการเป็นคู่สัญญที่จะต้องเงินผลประโยชน์ให้เปนผู้เอาประกันภัยหรือทายาทอันจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบกิจการฯลฯ ตามความในมาตรา ๗ จำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนหรือนายหน้าหาลูกค้าเท่านั้น ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่จึงมีมติว่า โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างหาได้ไม่ และไม่ต้องวินิจฉัยว่า กิจการวิวาหสงเคราะห์มีสภาพคล้ายคลึงกับการประกันภัยหรือไม่
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ทุกข้อหา