คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยเป็นความพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิที่ดินระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งโจทก์จำเลยมาประมูลการเช่าที่พิพาทเอาเงินมาวางศาลไว้ ดังนี้ ศาลจะสั่งให้มีการประมูลการเช่าที่พิพาทได้ ในเมื่อจำเลยตกลงยินยอมประมูลแล้ว ศาลไม่มีอำนาจจะสั่งบังคับให้จำเลยจำต้องประมูล

ย่อยาว

กรณีนี้ โจทก์จำเลยพิพาทกับเรื่องกรรมสิทธิที่ดิน ซึ่งโจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกที่ดินของวัดพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งโจทก์จำเล่ยมาประมูลการเช่าที่ดินรายพิพาท โดยอ้างว่าเพื่อระงับกรณีวิวาทและเพื่อมิให้เกิดการเสียหาย เป็นการรักษาผลประโยชน์ของทั้ง ๒ ฝ่าย เงินค่าเช่าที่ประมูลได้ให้นำมาวางศาลไว้ เมื่อคดีถึงที่สุด ฝ่ายชนะคดีรับไป
ฝ่ายจำเลยคัดค้านคำร้องของโจทก์ และไม่ยินยอม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประมูลการเช่าที่ดินรายพิพาทตามโจทก์ขอ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งสั่งให้โจทก์จำเลยประมูลการเช่าที่พิพาทในระหว่างพิจารณาตามคำร้องขอของโจทก์ ในคดีพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิที่ดินนั้น เป็นคำสั่งที่ไม่มีผลบังคับจำเลยให้กระทำตามคำสั่งนั้นได้ ถ้าจำเลยไม่ยินยอม เพราะคำร้องขอของโจทก์เช่นนี้ แม้ศาลจะมีอำนาจสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ ในระหว่างพิจารณาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๖๔ ก็ตาม แต่ก็ไม่มีอำนาจถึงกับจะบังคับให้จำเลยจำต้องประมูลการเช่าในเมื่อจำเลยไม่ยอมประมูล ทั้ง่ตามท้องสำนวนก็ไม่ปรากฎเลยว่าจำเลยยินยอมประมูล เช่นนี้ศาลฎีกาจะสั่งให้จำเลยยอมประมูลค่าเช่าตามคำร้องขอของโจทก์หาได้ไม่
จึงพิพากษายืน

Share