คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่เป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา +ทรัพย์และได้พาทรัพย์หนีไป+ภายหลังกลับมาเอาของ+ไว้ แล้วเกิดฆ่าเจ้าทรัพย์+เป็นความผิด 2 กะทงคือ +ลักทรัพย์ และฐานฆ่าคน+โดยเจตนา +พิจารณาอาชญา ดุลยพินิจ จำเลยมีผิด 2 กะทงศาลมีอำนาจลงโทษแต่บทหนักกะทงเดียว

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยสมคบกันมีมีดชุยเป็นสาตราวุธเข้าทำการลักเข้าเปลือกในยุ้งของนายอาย เมื่อพาเข้าหนี้ไปแล้ว ภายหลังนายใจ๋คำผู้เดียวกลับมาเอากระบุงที่ลืมไว้พบนายอ้ายกำลังโยนกระบุงขึ้นไปบนเรือน จึงเอามีดชุยแทงนายอ้าย ๑ ทีถูกสีข้างข้างขวากว้าง ๒ กะเบียด ยาว ๑ นิ้ว ๑ กะเบียดลึกถึงปอด นายอ้ายขาดใจตายโดยพิษบาดแผลนั้นภายใน ๒ วัน
ศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินว่า นายใจ๋คำจำเลยมิได้มีเจตนาจะฆ่านายอ้าย มีผิดตาม ม.๓๐๐ ตอน ๓ ให้จำคุกมีกำหนด ๒๐ ปี แลนายต๋า นายดวงคำจำเลยมีผิดตาม ม.๒๙๓ ให้จำคุกมีกำหนดคนละ ๘ เดือน แต่จำเลยรับสารภาพให้ลดโทษลงกึ่งหนึ่งคงให้จำคุกนายใจ๋คำ ๑๐ ปี นายต๋านายดวงคำคนละ ๔ เดือน ของกลางให้ริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษนายใจ๋คำตามมาตรา ๒๕๐
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลเดิม
ศาลฎีกาตัดสินว่า ตามบาดแผลและอาวุธที่ใช้แสดงให้เห็น ว่านายใจ๋คำจำเลยตั้งใจจะฆ่านายอ้าย และการลักทรัพย์ได้ขาดตอนจากการที่นายใจ๋คำทำร้ายนายอ้ายแล้ว นายใจ๋คำควรมีความผิด ๒ กะทงคือฐานลักทรัพย์กะทงหนึ่งและฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่ทางพิจารณายังไม่พอฟังว่าได้ฆ่าเพื่อปกปิดความผิดอันเป็นลักษณฉกรรจ์ตามมาตรา ๒๕๐ ฉะนั้นนายใจ๋คำจึงมีผิดตาม ม.๒๔๙ สำหรับกะทงที่ ๒ แต่ให้ลงโทษนายใจ๋คำฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาซึ่งเป็นโทษที่หนักกะทงเดียว ให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต แต่ได้รับสารภาพควรลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงให้จำคุกนายใจ๋คำ ๑๐ ปี

Share