แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลยจำเลยก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยมีบาดเจ็บสาหัสโดยมีเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย
จำเลยให้การภาคเสธว่าใช้ปืนยิงไปเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตามกฎหมายอาญา มาตรา 249-60และ 59 คงจำคุกจำเลย 5 ปี ปืนสั้นคอลรีวอลเวอร์และปลอกกระสุนริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าผู้เสียหายก่อเหตุและทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงไปเพื่อป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ พิพากษาให้ยกฟ้อง
อัยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยก่อน รูปคดีจึงไม่ใช่จำเลยได้ใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยเพื่อป้องกันตัวดังข้อต่อสู้ การที่จำเลยใช้ปืนยิงจ่าอากาศโทชาญชัยในระยะใกล้ ๆ หลายนัด กระสุนปืนถูกจ่าอากาศโทชาญชัยมีบาดแผลถึง 7 แห่ง แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่เผอิญกระสุนปืนถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตาย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
จึงพิพากษากลับให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น