แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่าร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใด จะถือเอาเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่า เอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้าย ยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงและใช้มีดฟันนายเจ๊ะเต๊ะโดยเจตนาฆ่าไตร่ตรองไว้ก่อน ทารุณโหดร้าย เพื่อปกปิดความผิดและหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยกระทำผิดดังโจทก์ฟ้อง วางโทษประหารชีวิต แต่จำเลยรับว่าได้ยินเสียงปืน ทราบนายเจ๊ะเต๊ะถูกยิงและได้ขอให้ศาลไปดูที่เกิดเหตุ เป็นคุณความดีที่ทำให้ศาลมีโอกาสรู้เห็นข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษตามมาตรา ๗๘, ๕๒(๑) ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุกตลอดชีวิต
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่เป็นการฆ่าทารุณ และเหตุที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นอ้างลดโทษก็ไม่เป็นเหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตาย ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยคบคิดกันมาซุ่มดักยิงผู้ตายเพราะมีเหตุอาฆาตพยาบาทอยู่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย ไม่ปรากฏว่าร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใด จะถือเอาเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนยังไม่ถนัด ส่วนการที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลงยังจ่อยิงศีรษะผู้ตาย และใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่า เอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาาให้ตายในทันที การกระทำของจำเลยยังไม่ต้องด้วยข้อ ๔ และ ๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙
พิพากษายืน.