คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039-1040/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่มีการอนุญาตให้ฎีกาได้โดยถูกต้องแล้วในต้นฉบับฎีกา แต่ในสำเนาฉบับที่ส่งให้จำเลยนั้นไม่มีข้อความแสดงไว้ให้ปรากฎ ดังนี้ไม่ทำให้ฎีกานั้นไม่ชอบ
อธิบดีกรมอัยการมีอำนาจรับรองฎีกาของเอกชนที่ฟ้องคดีอาญาได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้ง ๒ สำนวน ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันฉ้อโกงโจทก์ ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลแขวงลำปางสืบพยานแล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิด ควรลงโทษจำคุกคนละ ๑ ปี ๖ เดือน แต่เกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิพากษา จึงทำความเห็นส่งสำนวนไปให้ศาลจังหวัดลำปางพิพากษา
ศาลจังหวัดลำปางเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้องจึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
จำเลยคัดค้านฎีกาของโจทก์ว่าไม่ควรรับไว้ เพราะ
(๑) สำเนาฎีกาของผู้ว่าคดีที่จำเลยได้รับไม่มีผู้พิพากษาหรืออธิบดีกรมอัยการรับรอง
(๒) ฎีกาของโจทก์ร่วมซึ่งมิใช่พนักงานอัยการนั้น ไม่มีผู้พิพากษารับรองให้ฎีกา แต่กลับมีคำรับรองของอธิบดีกรมอัยการ เป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อคัดค้านว่า
(๑) ปรากฎว่าในฎีกาของผู้ว่าคดีมีผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาอนุญาตให้ฎีกาได้แล้ว เป็นการถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๑ การที่ในสำเนาฉบับที่จำเลยได้รับไม่มีข้อความดังกล่าว อาจเป็นเพียงเรื่องผิดพลาดในการส่งสำเนา ไม่เป็นเหตุถึงกับทำให้ฎีกาอันแท้จริงเสียไป
(๒) อธิบดีกรมอัยการมีอำนาจรับรองฎีกาของโจทก์ร่วมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๑
นอกจากนั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งฎีกา และพิพากษายืน

Share