คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำจักสานขายและรับซื้อเครื่องจักสานไว้ขาย มีสตางค์ไว้ในครอบครอง 24 บาท ถือได้ว่าเปนผู้ประกอบการค้าและอุสาหกัม และไม่ถือว่ามีไว้เกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการใช้จ่ายปรกติ ไม่มีความผิด.

ย่อยาว

ได้ความว่าเจ้าพนักงานจับเหรียบกสาปน์ชนิดสตางค์ ทองแดง ๒๓๐๐ อันและชนิดราคาต่ำกว่าอันละ ๒๐ สตางค์อีก ๔๖ บาท ๓๔ สตางค์จากจำเลย แต่เปนของจำเลยเพียง ๘๔ บาทนอกนั้นเปนของบุตรภรรยาฝากจำเลยไว้ จำเลยเปนคนชราชาวบ้านนอกทำการจักสานขายและซื้อเครื่องจักสานของผู้อื่นมาไว้ขายด้วย
สาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยนำสืบไม่ได้ว่าปรกติธุระหรือการไช้จ่ายปรกติของจำเลยไนวันหนึ่ง ๆ จำเปนต้องมีสตางค์ไว้เปนจำนวนเท่าได จึงลงโทสจำคุกจำเลย ๒ ปี ๖ เดือน
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่าจำเลยเปนผู้ประกอบการค้าและอุสาหกัม มีสตางค์ไว้ไนครอบครองไม่เกิน ๓๐ บาท และโจทสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีไว้เกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือสำหรับการไช้จ่ายปรกติ จำเลยไม่มีความผิด ไห้ยกฟ้องโจท
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าจำเลยเปนผู้ประกอบการค้าและอุสาหะกัมตามความในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน พ.ส. ๒๔๘๔ พ.ส. ๒๔๘๖ มาตรา ๓ ตรี ส่วนที่ว่จำเลยเก็บสตางค์ ๒๔ บาทไว้ไม่มีทางไข้ต้องถือว่ามีไว้เพื่อการค้านั้นก็เห็นว่ากิจธุระของคนเราไม่มีฉเพาะแต่เรื่องซื้อกินเท่านั้น ไม่พอฟังว่าจำเลยมีไว้เกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการไช่จ่ายปรกติ จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.

Share