แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา บัดนี้จำเลยที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมแล้ว ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเรียกนายพิศาลปักปิ่นเพชรจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 1 ผู้มรณะ เพื่อดำเนินคดีต่อไป หมายเหตุ จำเลยที่ 2 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 140) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนเสารั้ว และลวดหนามออกจากที่พิพาทห้ามจำเลยทั้งสองและบริวาร เกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีก กับให้คืนการครอบครองที่พิพาท ให้โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 27,000 บาท แก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์วันละ 150 บาท นับแต่วันฟ้อง จนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกจากที่พิพาท นอกจากที่แก้คงให้ เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยทั้งสองฎีกา (อันดับ 164) คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 178) ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อสั่ง (อันดับ 182)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้นายพิศาลปักปิ่นเพชร จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เข้าเป็นคู่ความแทนที่ จำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42