แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยซื้ออาคารพิพาทอย่างสังหาริมทรัพย์คือเมื่อซื้อได้แล้วต้องรื้อถอนไป เมื่อจำเลยซื้อได้ สัญญาเช่าอาคารพิพาทระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมระงับไป หรือไม่ หรือจำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ย่อยาว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน42,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ให้เหตุผลว่า ฎีกาของจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยตามมาตรา 249 จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าจำเลยที่ 1 ซื้ออาคารพิพาทอย่างสังหาริมทรัพย์ คือเมื่อซื้อได้แล้วต้องรื้อถอนไปเมื่อจำเลยที่ 1 ซื้อได้สัญญาเช่าอาคารพิพาทระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมระงับไปหรือไม่ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่า หรือไม่ นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงให้รับฎีกาข้อดังกล่าวไว้พิจารณา โดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไปส่วนฎีกาข้ออื่นเป็นข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับนั้นชอบแล้ว”