คำสั่งคำร้องที่ 916/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง การรับรองให้ ฎีกาข้อเท็จจริงเป็นอำนาจของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่อาจสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นรับรอง หรือไม่รับรองให้ได้

ย่อยาว

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริงและต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกาของ จำเลย

จำเลยเห็นว่า คดีนี้คำเบิกความของพยานโจทก์ และเอกสารที่ประกอบการเบิกความของพยานโจทก์ขัด แย้งกัน จึงสมควรให้ศาลได้พิจารณาเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ขอให้ศาลฎีกาโปรดมีคำสั่งให้รับรองฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อเท็จจริงและมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป

หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว หรือไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ การกระทำของจำเลย เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แต่ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อขายกับมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ ลงโทษมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณตามมาตรา 106 ทวิจำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่คงจำคุก 3 ปี 9 เดือน ริบของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี ในศาลชั้นต้นรับรองฎีกา ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นจึงมี คำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 54, 53)

จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 55)

คำสั่ง

คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง การรับรองให้ฎีกาข้อเท็จจริงเป็นอำนาจของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่อาจสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นรับรองหรือไม่รับรองให้ได้ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share