แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า นอกจากคดีนี้แล้วโจทก์กับพันตำรวจโทไพฑูรย์วิถิณิยะธนี ยังได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ศาลอื่น ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเหตุอย่างเดียวกันอีก 3 คดี คือโจทก์ฟ้องที่ศาลจังหวัดหลังสวน ส่วนพันตำรวจโทไพฑูรย์วิถิณิยะธนี ฟ้องที่ศาลแขวงราชบุรีและศาลจังหวัดเชียงราย หลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วจำเลยที่ 1 ได้ถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ตลอดมาว่า “กลัวตายไหม””ไม่กลัวตายหรือ” และสามีของจำเลยที่ 1 ยังได้รับจดหมายมีข้อความกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 เป็นชู้กับร้อยตำรวจเอกพิพัฒน์เครือชัยพินิต ซึ่งจะมาเบิกความเป็นพยานของจำเลยที่ 1 ปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องนี้ พฤติการณ์แสดงว่าโจทก์กับพันตำรวจโทไพฑูรย์วิถิณิยะธนี เป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพลต่อจำเลยที่ 1และพยานของจำเลยที่ 1 ที่จะมาเบิกความต่อศาล ขอได้โปรดอนุญาตให้โอนคดีนี้ไปพิจารณาที่ศาลแขวงพระนครเหนือต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 62)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติการพิมพ์พ.ศ. 2484 มาตรา 49 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,90,326,328ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
คดีอยู่ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 60)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าอาจมีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอื่นขึ้นจึงไม่อนุญาตให้โอนคดี