คำสั่งคำร้องที่ 894/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 25,000 บาท โจทก์ฎีกาขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน217,500 บาท เต็มตามฟ้อง ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาจึงไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย และ ทุนทรัพย์ในคดีนี้ต้องถือเอาทุนทรัพย์ตามที่ยื่นฟ้องตั้งแต่แรกเป็นอัตรากำหนดว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์เท่าใด โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 68)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน25,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฯลฯนอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยต่างยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 65) แผ่นที่ 5,63)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)

คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า แหวนที่จำเลยมอบให้โจทก์มิใช่เป็นของหมั้นเมื่อโจทก์จำเลยสมรสกันโดยไม่มีการหมั้นตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยโจทก์ฎีกาว่าแหวนที่จำเลยมอบให้แก่โจทก์เป็นของหมั้นเมื่อจำเลยผิดสัญญาหมั้นจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จึงเป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกที่แก้ไขแล้วบัญญัติว่าในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาทหรือไม่เกินจำนวน ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง ฯลฯ” คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share